ไม่รู้เป็นเหมือนกันหรือเปล่า พอสิ้นเดือนทีไรเห็นใบแจ้งหนี้มากองอยู่ตรงหน้า โลกที่เคยสดใสก็เปลี่ยนไปทันที เพราะเห็นตัวเลขที่จะต้องจ่าย แล้วเอามาลงรวมกันมันพาลจะลมจับให้ได้ซะทุกครั้ง ค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆในแต่ละใบอาจจะไม่มาก เพียงแค่หลักพันต้นๆ แต่พอเอามารวมกันเท่านั้นแหละ มันกลายเป็นหลักหมื่นได้ในพริบตาเลย และคุณเองก็จะต้องจ่ายมันอยู่อย่างงั้น น่าจะมากกว่า 3 ปีหรือ 5 ปี มารู้ตัวอีกทีก็เหมือนก้าวถอยหลังยังไงอย่างนั้นเลย
หยุดเลย “นิสัยซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง” คุณมีความจำเป็นที่จะต้องบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่า ถ้าอยากจะซื้ออะไรก็ตามให้จ่ายเดี๋ยวนี้เลย ไม่ใช่ซื้อก่อนแล้วมาผ่อนทีหลัง คุณอาจมีความสุขกับสิ่งของที่อยากได้เพียงชั่วข้ามคืน แต่ต้องมานั่งระทมใจไปอีกหลายปี เพราะคุณผ่อนกำลังจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้นอยู่นั่นเอง แล้วแบบนี้อีกกี่ปีมันจะหมดไปสักทีหละ ดังนั้นให้คุณเรียนรู้ที่จะใช้บัตรเดบิตมากกว่าบัตรเครดิต เพราะมันเป็นบัตรที่ใช้งานเหมือนกันกับบัตรเครดิตเลยนะจะว่าไปแล้ว แต่มันทำให้คุณใช้จ่ายเงินได้แค่เพียงจำนวนที่มีอยู่ในบัญชีเท่านั้น โดยที่คุณไม่ต้องพกเงินสดไปไหนมาไหนเหมือนกับบัตรเครดิตนั่นแหละ คุณสามารถจ่ายเงินของคุณผ่านทางโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตจากที่ไหนก็ได้ทั่วโลก รวมทั้งใช้ถอนเงินจากตู้ atm ในต่างประเทศก็ยังทำได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณก็ต้องมีเงินในบัญชีเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายในการเบิกเกินบัญชีได้นิดหน่อยด้วยนะ วิธีนี้คุณก็ไม่ต้องมาควบคุมหนี้สินของคุณให้ต้องหนักอกหนักใจอีกต่อไป เพราะมีเท่าไร ก็ใช้ไปเท่านั้น หมดแล้วก็คือไม่ต้องใช้จ่ายให้เกิดหนี้สินอีก
คุณจะควบคุมหนี้ได้ ตราบเท่าที่คุณไม่เห็นบัตรเครดิต ก็ไม่ต้องมีปัญหาในเรื่องของการต้องมาจ่ายหนี้ทีหลัง เพื่อที่จะให้พ้นจากปัญหาการเป็นหนี้เราก็ต้องขจัดความอยากซื้อออกไปให้ได้ก่อน บัตรเครดิตก็เหมือนกับสิ่งอื่นในชีวิตของคุณนั้นแหละ หากคุณไม่มีมันคุณก็จะไม่คิดถึงมัน หากคุณตัดสินใจว่าสิ่งที่คุณจะทำคือจ่ายหนี้บัตรเครดิตก่อน จากนั้นก็จะยกเลิกมันไป แต่หากคุณคุณมั่นใจว่าจะยกเลิกการใช้ หรือการขอเพิ่มวงเงิน ก็ให้ฝากบัตรไว้กับเพื่อนที่ไว้ใจได้หรือสมาชิกในครอบครัว จนกว่าคุณจะจ่ายหนี้ของคุณจนหมดไปเสียก่อน
ห้ามทำเด็ดขาดสำหรับบัตรเครดิต ไม่ว่าจะมีข้อเสนอที่จะขยายวงเงินบัตรเครดิตให้คุณมากเท่าไหร่ก็ตาม คุณก็อย่าไปใจอ่อนกับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีปัญหาในการจ่ายหนี้เต็มจำนวนในแต่ละเดือนอยู่แล้ว ไม่ว่าข้อเสนอจะเป็นอย่างไรก็อย่าพยายามไปสนใจ และที่สำคัญอย่าหาทางสมัครบัตรเครดิตใบใหม่เพื่อเอามาจ่ายบัตรใบเก่า นอกเสียจากว่าคุณมั่นใจในเรื่องของดอกเบี้ยที่ต่ำมากๆ ซึ่งคุณได้คำนวณแล้วว่ามันจะทำให้คุณประหยัดเวลาในการใช้หนี้ให้สั้นขึ้นมาได้ แต่ถ้าหากมันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ก็จงอย่าได้ทำเพราะมันจะทำให้คุณสร้างหนี้ไม่มีวันจบสิ้น หากคุณขาดเงินสด ก็จงหลีกเลี่ยงการถอนเงินสดจากบัตรเครดิต เพราะมันจะทำให้คนถูกคิดดอกเบี้ยในทันที แม้ว่าบัตรเครดิตของคุณจะเสนอวันปลอดดอกเบี้ยในการซื้อสินค้าแล้วก็ตาม แต่ดอกเบี้ยที่คุณจะต้องจ่ายในแต่ละเดือนจะทบทวีขึ้นอย่างรวดเร็วจนคุณตกใจแน่ๆว่ายอดหนี้ก้อนนี้มันเพิ่มมาจากไหน ่คุณจึงจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างมาก
5 เทคนิคในการตรวจสอบหนี้บัตรเครดิต
1.จดยอดหนี้ไว้ทุกรายการ คุณจำเป็นต้องจดค่าใช้จ่ายที่คุณจะต้องจ่ายจากบัตรเครดิตลงไว้ในสมุดหรือบันทึกไว้ในโทรศัพท์ที่คุณสามารถหยิบมาดูได้บ่อยๆ จากนั้นในตอนสิ้นเดือนก็ให้รวมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ออกมาดู เพื่อที่คุณจะไม่ต้องมารอจนกว่าใบแจ้งหนี้จะมา คุณสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายของคุณได้ล่วงหน้าเพื่อที่จะเทียบกับรายได้ของคุณว่าเพียงพอหรือไม่อย่างไร
2.ตรวจสอบใบแจ้งหนี้ของคุณอย่างละเอียดและถี่ถ้วน ให้มากที่สุดและดูทุกๆรายการ ว่าไม่มีรายการแปลกปลอมมาให้คุณต้องประหลาดใจ หรือถูกหักเงินเกินกว่ายอดเงินที่คุณได้วางแผนเอาไว้ เพราะไม่แน่ว่าหากคุณผิดพลาดในเรื่องของรหัสบัตรใดๆก็ตาม อาจจะมีผู้ไม่หวังดีนำบัตรของคุณไปใช้โดยที่คุณไม่รู้ตัวก็อาจเป็นได้
3.อย่าเพิ่มวงเงินเด็ดขาด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามห้ามเด็ดขาดที่จะขอเพิ่มวงเงินของคุณ ไม่ว่าจดหมายหรือเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะเสนอมากเพียงใดก็ตาม เพราะนั่นเป็นหนทางนำคุณไปสู่หายนะทางการเงินอย่างแน่นอน
4.เช็คผลประโยชน์ของบัตรเครดิต เพื่อที่จะดูว่าบัตรเครดิตที่คุณใช้ ให้ผลประโยชน์เทียบเท่ากับบัตรเครดิตอื่นๆหรือไม่ คุณก็เข้าไปตรวจเช็คหรือเทียบรายการกับหลายๆสถาบันการเงิน เพื่อดูว่าผลประโยชน์ที่ได้รับยังมีมากกว่าที่คุณมีอยู่หรือไม่ ถ้าหากมีที่อื่นให้ได้มากกว่านี้ ก็ลองสอบถามรายละเอียดให้แน่ชัด และสามารถสมัครเพื่อเปลี่ยนไปใช้สถาบันการเงิน ที่ให้ผลประโยชน์มากกว่าก็สามารถทำได้เช่นกัน
5.หากูรูที่ปรึกษาเรื่องปัญหาการเงิน หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับบัตรเครดิตและต้องการข้อมูลที่จะช่วยหาทางออกละก็ ให้คุณลองเข้ากลุ่ม facebook หรือเว็บไซต์ต่างๆ ที่จะมีผู้มีประสบการณ์และผู้มีความรู้ คอยให้คำแนะนำช่วยเหลืออยู่คุณ ที่เหล่านี้จะสามารถพูดคุยปรึกษากันได้ คุณอาจจะได้คำตอบเกี่ยวกับบัตรเครดิตและสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตของคุณได้อย่างลงตัว
