เหงือกร่นจนฟันสึกเป็นร่อง เกิดจากการแปรงฟันผิดวิธีของเราเอง คนที่ใช้ขนแปรงแข็งตั้งแต่มีเดียมขึ้นไป การวางแปรงสีฟัน ขนแปรงค่อนข้างจะตั้งฉากกับตัวฟัน หรือจับตัวฟันประมาณ 70 ถึง 80 องศา ขณะแปรงฟัน ขนแปรงจะกระทบกับโคนฟันและเหงือกเป็นแนวเส้นตรง
ยิ่งถ้าถูกไปมาด้วยแรงที่สม่ำเสมอกัน ยิ่งนานวันเป็นประจำด้วยแล้ว จะทำให้เหงือกซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่บางมาก จะค่อย ๆ เริ่มสึก หรือเหงือกร่นไป เริ่มจากร่องเล็ก ก็จะขยายใหญ่และสึกมากขึ้นเรื่อย ๆ และจะเริ่มมีอาการเสียวฟัน
การสึกและเหงือกร่นภายในปากของเราจะไม่เท่ากัน ตำแหน่งไหนถูกแปรงด้วยแรงมากเป็นพิเศษ การร่นและสึกของฟันจะมีมากกว่าจุดอื่น จนรู้สึกว่ามันเป็นร่อง เราจะยิ่งพิถีพิถันกับจุดนั้นมาก และจะขยันแปรงตรงนั้นมากกว่าที่อื่น ผลก็คือ จะยิ่งทำให้สึกมากกว่าจุดอื่น
ลองกลับไปสังเกตการแปรงฟันของเราเอง ว่าเป็นอย่างที่ว่าหรือไม่ ยังไม่สายเกินไป ถ้าจะกลับมาแปรงฟันให้ถูกวิธี
สมควรจะอุดฟันที่เป็นโรคนี้หรือไม่ ?
ถ้าสึกไม่ถึง 0.5 mm หมอจะไม่แนะนำให้อุด แต่จะให้คนไข้เปลี่ยนวิธีแปรงฟัน และใช้ยาสีฟันที่ช่วยลดการเสียวฟันมาใช้ เวลาใช้ก็ให้ทายาสีฟันตรงตำแหน่งที่เสียว ประมาณ 1 นาที แล้วค่อยแปรงฟันก็น่าจะหายได้
คนไข้ที่สงสัย มักจะถามหมอเสมอว่า แล้วมันจะไม่ลามหรือ? ซึ่งเราต้องเข้าใจก่อนว่า การสึกของมัน เกิดจากแรงกระทำภายนอก ที่เราการแปรงฟันที่ผิดวิธี ถ้าเราแก้ไขได้ ก็ไม่จำเป็นต้องอุดฟันซี่นั้น
ความแตกต่างของ “ฟันผุ” กับ “ฟันสึก”
เราต้องแยกระหว่าง “ฟันผุ” กับ “ฟันสึก”
“ฟันผุ” มีเชื้อแบคทีเรีย และเศษอาหารที่ตกค้างเป็นองค์ประกอบ ซึ่งฟันผุ จะเริ่มต้นเป็นจุดดำขยายใหญ่ขึ้น เป็นรูเล็ก/ใหญ่ แล้วแต่ขั้นตอนของการผุ เวลาที่ตรวจเจอฟันผุเล็กน้อย ก็จำเป็นต้องอุดทั้งนั้น เมื่อตรวจเจอ
“ฟันสึก” เนื้อฟันจะดูเป็นสีปกติ ไม่มีจุดดำอะไรให้เห็น ฟันสึกสมควรจะอุด ก็เพราะเริ่มมีเศษอาหารเข้าไปติดในร่องสึกนั้น แถมมีอาการเสียวมากทุกครั้ง ที่โดนลมโดนน้ำ หรือสึกเป็นร่องลึกประมาณ 1 mm. ขึ้นไป ก็สมควรที่จะอุดได้แล้ว
แต่หลังจากอุดแล้ว เราต้องไม่ลืมที่จะเปลี่ยนวิธีแปรงฟันให้ถูกต้องด้วย มิเช่นนั้น สิ่งที่เราอุดเข้าไปก็สามารถเริ่มหลุดมาได้ เพราะวัสดุที่ใช้อุด จะไม่แข็งแรงเท่าเนื้อฟันธรรมชาติ หากไม่อยากเหงื่อร่นหรือโคนฟันสึก ก็กลับมาแปรงฟันให้ถูกวิธีเท่านั้นเอง
Tip : ผักผลไม้ที่ช่วยป้องกันฟันผุ และช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรงได้แก่ ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ผักกาดขาว ผักกาดแก้ว ผักบุ้งจีน และผักกาดหอม ในส่วนผลไม้ได้แก่ ส้มโอ มะพร้าว แตงโม และผลไม้เปรี้ยวหวาน เช่น สับปะรด ที่มีสารอาหารที่ช่วยป้องกันฟันผุและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายด้วย
ที่มา : หนังสือ รักปาก รักษ์ฟัน ทพ.อมรสิทธิ์ เมืองคุ้ม
แนะนำ : เกร็ดความรู้สั้น ๆ พร้อมข้อคิด วิธีการสร้างความสุขที่แท้จริง Ep.10
แนะนำ : 6 เกร็ดความรู้ใกล้ตัวน่ารู้ เกี่ยวกับพฤติกรรมที่ทำให้เราดูแก่ก่อนวัย Ep.11
แนะนำ : เกร็ดความรู้เรื่องสุขภาพ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพดวงตา Ep.12