ตามความเชื่อที่ว่ากัน การปลูกไม้เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ใช่ว่าจะปลูกต้นไม้อะไรก็ได้ทุกชนิด เพราะหากเลือกไม้ที่ไม่ควรไม่เหมาะสมมาปลูก ก็อาจจะเกิดแต่เรื่องที่ไม่ดีเข้ามารุมเร้าตลอดเวลา ดังนั้นแล้วการจะลงต้นไม้อะไรสักต้นในอาณาบริเวณบ้าน ความชอบส่วนตัวอย่างเดียวคงจะไม่ได้แล้ว ต้องอาศัยดูจากความเชื่อที่เชื่อกันมานานไว้บ้างก็ดี
1.ต้นลั่นทม
ถึงแม้ว่าต้นลั่นทมจะมีความสวยงามสูงใหญ่ ดอกที่ออกมาก็มีลักษณะที่สวยสะอาดพร้อมด้วยกลิ่นหอม แต่ด้วยชื่อที่ใช้เรียกนั้นฟังดูไม่เป็นมงคลสักเท่าไรนัก สื่อความหมายออกไปว่าระทมทุกข์ เต็มไปด้วยทุกข์ คนไทยตั้งแต่อดีตมาจึงไม่นิยมเลือกมาปลูกในพื้นที่ของบ้าน เพราะเชื่อว่าบ้านที่อยู่จะมีแต่ความทุกข์ความโศกเศร้า รวมถึงความสูญเสียตายจาก เนื่องด้วยต้นลั่นทมมักจะถูกปลูกอยู่บริเวณหลุมฝังศพ
2.ต้นโศก
ด้วยชื่อเรียกที่มีความหมายไม่ค่อยดี สื่อถึงความโศกเศร้า หดหู่ บ้านเรือนที่อยู่อาศัยของคนไทยโดยมากจึงไม่นิยมปลูกไว้ เพราะความเชื่อว่าชื่อของต้นไม้ชนิดนี้จะนำพาแต่เรื่องเศร้า ๆ เข้ามาในบ้าน หากปลูกไว้ภายในบ้านจะมีแต่เสียงร้องไห้เสียใจมากกว่าเสียงหัวเราะสนุกสนาน แต่แท้จริงแล้วชื่อเดิมของต้นโศกคือ ต้นอโศก ที่มีความหมายตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
3.มะละกอ
เมื่อออกเสียงคำว่า มะละกอ คำว่า มะละ จะใกล้เคียงกับคำว่า มรณะ ที่แปลว่า ตาย อีกทั้งเมื่อเทียบเคียงกับความหมายที่สื่อถึงได้ก็จะเปรียบเหมือนกับความแตกแยก การละทิ้งจากเผ่าจากกอ ดังนั้น การนำมะละกอมาปลูกไว้ในบ้าน จึงเชื่อกันโดยมากว่าจะทำให้คนในบ้านเกิดการแตกแยก ไม่รักใคร่สามัคคี ครอบครัวจะไม่เป็นครอบครัว จะต่างคนต่างอยู่ และจะมีไม่พ้นเรื่องการขัดแข้งการมีปากเสียง จะทำให้บ้านอยู่อย่างไม่มีความสุข แต่หากต้องการปลูกสามารถปลูกบริเวณรั้วด้านนอกของบ้านได้
4.ต้นเต่าร้าง
ด้วยความที่ชื่อนั้นสื่อความหมายได้ถึงการร้างรา และความโดดเดี่ยวเงียบเหงา จึงไม่นิยมนำมาปลูกไว้ในบ้าน เพราะเชื่อว่าจะทำให้ต้องอยู่อย่างลำพัง ขาดความรักความเมตตาจากผู้คน รวมถึงอาจทำให้คู่สามีภรรยาต้องมีอันจบสิ้นด้วยการหย่าร้างเกิดขึ้น
5.ต้นชบา
ถึงแม้ว่าชบาจะออกดอกที่มีสีสันสวยงามเพียงไร แต่ตามความเชื่อของคนไทยเชื่อกันว่า ไม่ควรที่จะปลูกชบาไว้ในบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อสมัยโบราณนั้น ดอกชบาถูกใช้เป็นเครื่องหมายประจานชายหญิงที่ทำผิดประเวณี รวมถึงการใช้กับนักโทษที่ต้องเข้าแดนประหาร ดังนั้นการปลูกชบาไว้ในอาณาบริเวณบ้าน จึงเชื่อกันมาว่าจะทำให้ผู้อยู่อาศัยต้องตกเป็นชู้หรือไม่สมหวังในรัก
6.ต้นมะรุม
การปลูกต้นมะรุมไว้ในบริเวณที่อยู่อาศัย หรือในบริเวณอาคารสำนักงาน เชื่อว่าจะทำให้เกิดแต่เรื่องเดือดร้อนวุ่นวายกระหน่ำเข้ามาให้แก้ไขอยู่ตลอดเวลา ต้องอยู่บนความเหนื่อยยาก เต็มไปด้วยความกลุ้มใจ หาความสุขความสงบได้ยาก เพราะด้วยชื่อที่สื่อความหมายไปในทางที่ไม่ดีนั่นเอง ไม่ว่าจะไปคล้องจองกับรุมเร้า หรือมะรุมมะตุ้ม
7.ต้นนางแย้มป่า
มีความเชื่อมาตั้งแต่ครั้งโบราณแล้วว่า ไม่ควรปลูกต้นไม้ชนิดนี้ไว้ในบ้าน หากผู้ใดนำเอาปลูกจะเกิดแต่เรื่องเลวร้ายอัปมงคลขึ้นอยู่เสมอ เพราะต้นนางแย้มป่านั้น เชื่อกันว่าเป็นต้นที่มีภูตผีสิงอยู่ บางครั้งอาจทำให้เกิดความตื่นกลัวแก่ผู้อาศัยจนเสียขวัญ หรือเจ็บป่วยจับไข้ได้
8.ต้นชวนชม
เป็นต้นไม้ที่มองได้ 2 ความหมาย มีทั้งแง่ดีและไม่ดี แต่ทั้งนี้มีความเชื่อกันโดยมากว่าไม่ควรปลูกไว้ในบ้าน เพราะจะทำให้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านมีแต่คนมารุมรักชอบจนเกิดความเสื่อมเสีย ครอบครัวจะมีปัญหาเรื่องมือที่สาม หรือไม่หากเป็นบ้านที่มีเด็กสาว ๆ อยู่ก็อาจมีเรื่องประเภทชิงสุกก่อนห่ามเกิดขึ้น ดังนั้น หากจะปลูกเพราะเชื่อว่าให้ความหมายในทางที่ดี คือมีคนมาชอบมาเอ็นดู และเมตตาช่วยเหลือควรปลูกไว้ที่ริมรั้วด้านนอกบ้าน
9.ต้นงิ้ว
ที่ได้กล่าวถึงตามความเชื่อของจีนนั้น การปลูกต้นงิ้วไว้จะช่วยเสริมให้ได้รับแต่ความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งนั่นก็ค่อนข้างตรงกับความเชื่อของไทย หากว่าปลูกไว้ในอาณาบริเวณของกิจการหรือที่ทำงาน แต่ไม่ควรนำมาปลูกไว้ในส่วนของบ้านที่อยู่อาศัย เพราะคนไทยเชื่อว่าต้นงิ้วนั้นเป็นเครื่องหมายของการคบชู้ หรือการนอกใจ อาจทำให้ความรักภายในบ้านสั่นคลอนได้
10.ต้นระกำ
ด้วยชื่อเรียกที่สื่อความหมายไปในทางที่ไม่ดี บอกถึงความทุกข์ระกำช้ำชอก คนไทยจึงไม่นำต้นระกำเข้ามาปลูกไว้ในอาณาบริเวณบ้าน เพราะเชื่อว่าชื่อที่สื่อความหมายทางลบเช่นนั้น จะทำให้ชีวิตต้องอยู่อย่างทนทุกข์ หาความสุขไม่ได้
11.ต้นตะเคียน
มีความเชื่อกันมานานว่าภายในต้นตะเคียนจะมีวิญญาณสิงสถิตอยู่ การนำมาปลูกไว้ภายในบ้านจึงไม่ใช่เรื่องที่ควรเลย เพราะอาจจะทำให้คนที่อยู่อาศัยเกิดอาการหลอน หรือตื่นกลัวได้ หากบังเอิญไปทำอะไรผิดพลาดกับต้นไม้เข้า หรือมีสัมผัสมองเห็นวิญญาณ
12.ต้นโพธิ์ ต้นไทร และต้นสำโรง
ด้วยความที่เป็นต้นไม้ใหญ่ และเป็นต้นที่เชื่อกันว่ามีเทพเทวดาสิงสถิตอยู่ จึงถือว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ การปลูกต้นไม้จำพวกนี้ก็ควรต้องปลูกให้อยู่ในที่ที่เหมาะสม มีความศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน อย่างในวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำมาปลูกในบ้าน ถึงแม้ว่าต้นไม้จำพวกนี้จะไม่ได้ให้ความอัปมงคลใด ๆ ก็ตาม
13.ต้นน้ำเต้า มะเฟือง
ด้วยลักษณะรูปร่างของมันที่คล้ายกับอวัยวะเพศชาย (มะฟือง) และหน้าอกผู้หญิง (น้ำเต้า) จึงเชื่อกันว่าการนำมาปลูกไว้ภายในบริเวณบ้านจะทำให้เกิดแต่ความเสื่อมถอย อำนาจบารมีจะถูกลิดรอน หากเป็นคนมีของอาจทำให้เสื่อมและลดความขลังได้
14.ต้นสลัดได
เชื่อกันมานานแล้วว่า การปลูกต้นสลัดไดไว้ในบริเวณบ้าน จะเป็นการสลัดเอาสิ่งดี ๆ ที่กำลังจะเข้าบ้านออกไปหมดสิ้น ทำให้บ้านที่อยู่อาศัยต้องเผชิญกับเคราะห์ไม่ดีอยู่เสมอ คนในบ้านมักจะได้รับความเดือดร้อนวุ่นวายไม่ว่างเว้น เรียกได้ว่าจะอยู่อย่างไม่มีความสุข
15.ต้นมะกอก
การออกเสียงชื่อของต้นมะกอก จะไปพ้องกับคำว่ากลิ้งกลอก จึงเกิดความเชื่อว่าไม่ควรนำปลูกไว้ในบ้าน โดยเฉพาะในบ้านที่มีผู้อาศัยทำงานเป็นเจ้าคนนายคน เพราะจะทำให้ความน่าเกรงขามหายไป ขาดความเคารพนับถือจากผู้คนอย่างที่ควรจะเป็น หรือไม่คนที่อยู่อาศัยก็มักจะถูกมองว่าเชื่อไม่ได้ จิตใจไม่แน่นอน โลเล
16.ต้นรุ่ย
ความหมายของชื่อ “รุ่ย” ที่สื่อถึงความไม่มั่นคง ขาดรุ่ย การนำมาปลูกไว้ที่บ้านจึงเชื่อว่าจะทำให้บ้านนี้ขาดความอุดมสมบูรณ์เงินทองไม่มีเหลือเก็บ
17.ต้นมะขามเทศ และต้นหวาย
ลักษณะรูปร่างของต้นที่มีหนามแหลม การนำต้นไม้ที่มีความแหลมคมมาปลูกที่บ้าน คนไทยเชื่อว่าจะมีแต่อุปสรรคเข้ามาอยู่ตลอดชีวิต ที่อยู่อาศัยในบ้านนั้นก็จะรุ่มร้อน ไม่มีความสุข เสมือนถูกหนามแหลมคมของต้นไม้ที่ปลูกคอยทิ่มตำอยู่ตลอดเวลา
18.ต้นรักเร่
ความหมายของชื่อที่สื่อว่า ต้องเร่ขายรักไปเรื่อย ๆ การปลูกต้นไม้ชนิดนี้จึงเชื่อว่า จะทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยมักอาภัพรัก ไม่มั่นคง และเจ้าชู้
19.ต้นพุดตาน
ลักษณะการออกดอกของต้นพุดตานที่มีการเปลี่ยนสีตลอดทั้งวัน คนไทยจึงเชื่อว่าหากนำมาปลูกไว้ในบ้าน จะทำให้คนในบ้านขาดความน่าเชื่อถือ จิตใจก็ไม่แน่นอน การตัดสินใจไม่เด็ดขาด และก็อาจต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้คนอื่นมากกว่าที่จะได้อยู่เหนือคนอื่น เหมือนสีของดอกไม้ที่เปลี่ยนไป เพราะต้องขึ้นอยู่กับเรื่องของเวลา