ตามความเชื่อที่มีมาแต่โบราณของจีนเกี่ยวกับไม้มงคล หลักที่ใช้ยึดถือเอาว่าไม้ชนิดนั้น ๆ เป็นมงคลแก่บ้านแก่ผู้คน โดยมากแล้วก็จะยึดเอาจากหลักต่าง ๆ 5 แบบ คือ ตามความเชื่อที่มีมากันแต่โบราณ ความพ้องกับชื่อ ลักษณะของต้นไม้ ความหมายจากบทกวี และจากแพทย์สมุนไพรจีน
1.กลุ่มต้นไม้มงคลที่เชื่อกันมาแต่โบราณ
กลุ่มต้นไม้มงคลประเภทนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นไม้ที่ให้ความเป็นสิริมงคล ทางด้านการปกป้องคุ้มครอง และขับไล่สิ่งชั่วร้าย โดยเฉพาะภูตผีปีศาจ ซึ่งต้นไม้ที่อยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่
ท้อ : ชาวจีนเชื่อกันว่ามีความเป็นมงคลในการขับไล่ภูตผี รวมถึงสิ่งอัปมงคลต่าง ๆ ที่ดีมาก มักนิยมนำไม้ของท้อมาติดที่หน้าบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล
ทับทิม : ชาวจีนมักจะนิยมนำใบมาผสมน้ำล้างหน้าล้างตัวหลังจากกลับจากงานศพ เพราะเชื่อว่าจะช่วยไล่ผีได้ ส่วนเรื่องของผลก็เป็นอีกหนึ่งมงคล เพราะด้วยลักษณะที่มีเมล็ดข้างในเรียงตัวอัดกันแน่น จึงนิยมใช้มอบให้กับคู่สมรสเพื่อเป็นการอวยพรให้มีลูกมีหลานเยอะ ๆ
เซียงเช่า : ไม้มงคลของจีนอีกหนึ่งประเภทที่เชื่อว่าจะปกป้องคุ้มครองให้พ้นจากสิ่งชั่วร้ายและภูตผีได้จึงมักนำมาใช้ป้องกันผีเช่นเดียวกันกับทับทิม
2.กลุ่มไม้มงคลที่มาจากความพ้องกับชื่อ
ไม้มงคลในกลุ่มนี้ชาวจีนมักจะนิยมนำไปมอบให้แก่กันในงานมงคลต่าง ๆ เพราะล้วนแล้วแต่สื่อความหมายที่ดีทั้งสิ้น
ต้นและผลส้ม : เมื่อออกเสียงเป็นภาษาจีนจะไปพ้องกับคำที่มีความหมายดี ๆ ว่า ความสุข ความดีงาม
ดอกกุ้ยฮวาหรือหอมหมื่นลี้ : โดยคำว่า “กุ้ย” นั้นไปพ้องกับคำที่มีความหมายว่า ดี สูงส่ง ยอดเยี่ยม จึงมักนิยมใช้ในการเสริมมงคลให้กับผู้ที่ทำงาน เพื่อสื่อว่าให้ประสบความสำเร็จ
3.กลุ่มไม้มงคลที่มาจากลักษณะของต้นไม้
ต้นไม้ที่ให้ความเป็นสิริมงคลในกลุ่มนี้ เกิดจากการตีความจากลักษณะต้นไม้ของนักปราชญ์จีน
ต้นไผ่ : ด้วยลักษณะที่พลิ้วไหว ดูเหมือนไม่แข็งแรง แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ไผ่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ทุกสภาวการณ์ จึงถูกเปรียบได้กับความเข้มแข็ง ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความดีงาม ดังนั้นการปลูกไผ่ไว้ในบ้านชาวจีนจึงเชื่อว่าจะเป็นมงคลในการยกระดับจิตใจของคนในบ้านให้เป็นคนดีงาม มีคุณธรรมและไม่ทะนงตัว
ต้นสน : ด้วยลักษณะที่สูงตระหง่าน มีความทนทานที่ดี เพราะเป็นไม้เมืองหนาว จึงเปรียบว่าต้นสนนั้นมีความเป็นมงคลทางด้านความแข็งแรง อายุยืน สง่างาม และความอดทนยืนหยัดต่อสู้จนถึงเป้าหมาย
ดอกบ๊วย : เป็นดอกไม้ที่จะบานสู้กับหิมะ ยิ่งหิมะตกหนักดอกบ๊วยก็ยิ่งออกบานสะพรั่งสวยงามมากขึ้นตามไป ชาวจีนจึงเปรียบดอกบ๊วยในเรื่องของความเป็นมงคลว่า ความเข้มแข็ง ความอดทน และการต่อสู้ที่งดงาม
4.กลุ่มไม้มงคลที่มาจากความหมายในบทกวี
ไม้มงคลในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มักจะมาจากบทกวีที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ที่ได้ถูกนักปราชญ์ หรือนักกวีประพันธ์ขึ้นมา และได้เปรียบเทียบให้ความหมายไว้
ต้นหลาวฮวาหรือกล้วยไม้ดิน : ได้ถูกเปรียบเปรยในบทกวีว่าเป็นเหมือนกับวิญญูชน ซึ่งก็คือผู้ที่เป็นคนดีงาม บริสุทธิ์ถ่องแท้อย่างไร้ข้อกังขา คิดดีทำดีอย่างที่สุด ต้นไม้ชนิดนี้จึงมักถูกใช้สื่อความหมายถึงความซื่อสัตย์ความดีงาม และมักจะปลูกไว้เพื่อให้เกิดความดีงามความซื่อสัตย์แก่ลูกหลานในบ้าน
ดอกเบญจมาศหรือดอกฉุยฮัว : ถูกนักกวีเอกของจีนคนหนึ่งได้เปรียบเอาไว้ว่าเป็นผู้มีจริยวัตรงดงาม และตั้งแต่ที่กวีบทนี้ได้รับความนิยม ดอกเบญจมาศก็ได้กลายเป็นดอกที่สื่อให้ทราบว่าผู้ที่ได้รับนั้นเป็นผู้ที่มีความงามพร้อมจริง ๆ อีกทั้งยังได้นำมาเป็นไม้มงคลภายในบ้าน เพื่อให้เกิดความดีงามพร้อมอีกด้วย
5.กลุ่มไม้มงคลจากแพทย์สมุนไพรจีน
แพทย์สมุนไพรชาวจีนมอบให้เห็ดหลินจือ เป็นไม้มงคลที่มักใช้สื่อถึงความแข็งแรง และมีอายุที่ยืนยาว เพราะด้วยคุณสมบัติของมันที่สามารถใช้รักษาและดูแลสุขภาพของคนทั่วไปได้ดีนักนั่นเอง
นอกเหนือจากความเชื่อในไม้มงคลของชาวจีนที่ได้รับความนิยมกันโดยทั่วไปดังที่กล่าวถึงไปแล้วนั้น ชาวจีนก็ยังมีไม้มงคลตามกลุ่มย่อย ๆ อีก ซึ่งก็คือ ต้นไทร และต้นงิ้ว : อันมีที่มาจากการเป็นต้นไม้ประจำชนชาติ จ๊วงกว่างสี ที่เชื่อกันว่าการปลูกต้นไม้ 2 ชนิดนี้ ที่หน้าบ้านจะเป็นการเสริมมงคลให้ได้รับแต่ความรุ่งเรืองร่ำรวยยิ่ง ๆ ขึ้นไป
ยังมีต้นไม้ของชาวจีนอีกหนึ่งประเภทที่ชาวไทยให้ความนิยมปลูกกันมาก เพราะเชื่อว่าเป็นไม้มงคลยิ่ง โดยเฉพาะการเสริมดวงให้ได้รับความโชคดี มีเงินทองร่ำรวย ต้นไม้ที่ว่านี้ก็คือต้นดอกโป๊ยเซียนนั่นเอง ซึ่งหากเลี้ยงจนกระทั่งออกดอกได้ 8 ดอก แสดงว่าผู้ปลูกหรือคนในบ้านนั้นกำลังจะมีโชคมาหา