วันพฤหัสบดี, 28 พฤศจิกายน 2567

7 เคล็ดลับฮวงจุ้ยกับการกำหนดตำแหน่งบันไดบ้าน

 

 

บ้านที่มีมากกว่า 1 ชั้น สิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ก็คือบันได เพราะบันใดเป็นจุดเชื่อมระหว่างชั้น ในทางฮวงจุ้ยถือว่าบันใดเป็นตัวเชื่อมกระแสชี่ที่ไหลจากชั้นล่างขึ้นสู่ชั้นบน หากจะเปิดตำราฮวงจุ้ยดูก็จะพบว่า ข้อบัญญัติเกี่ยวกับบันไดมีอยู่มากพอสมควร โดยบทความนี้เราจะมาดู 7 เคล็ดลับฮวงจุ้ยกับการกำหนดตำแหน่งบันไดบ้าน

 

1.บริเวณประตูใหญ่ห้ามทำขั้นบันได

ก่อนที่จะไปดูการกำหนดบันไดภายในบ้าน เรามาดูนอกบ้านกันก่อน ทางฮวงจุ้ยจะไม่แนะนำให้ทำบันไดเอาไว้บริเวณทางเข้าบ้านหรือประตูใหญ่ ถ้าจะทำก็แค่เป็น Step พื้นประมาณ 1 ขั้นก่อนเข้าตัวบ้าน เหตุผลก็เพราะว่าการทำขั้นบันไดไว้บริเวณประตูทางเข้าบ้าน จะทำให้กระแสที่ไหลเข้าบ้านลำบากไม่สะดวก และกระแสบริเวณประตูทางเข้า มีลักษณะไหลลงหรือไหลออก เพราะลักษณะของบันไดกระแสจะไหลลงโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ยิ่งการทำขั้นบันไดในลักษณะที่ตรงกับประตูบ้านด้วยแล้ว ยิ่งส่งเสริมให้ชี่ไหลออกได้ง่ายขึ้นซึ่งเป็นลักษณะที่ผิดหลักฮวงจุ้ย

 

ถ้าหากมีความจำเป็นที่จะต้องทำขั้นบันไดบริเวณประตูทางเข้าบ้าน ให้ใช้วิธีหลีกไปทำบริเวณด้านข้างแทน พูดง่ายๆ คือ ให้ขึ้นบันไดทางด้านข้างบ้านแทนการที่จะขึ้นทางด้านหน้าตรงกับประตูทางเข้า การทำบันไดบริเวณด้านข้างของประตูทางเข้าบ้านมี ข้อห้ามอยู่อย่างหนึ่งก็คือ อย่าทำทางขึ้น 2 ข้างในลักษณะที่ขึ้นด้านหนึ่ง แล้วลงอีกด้านหนึ่ง เพราะจะเข้าข่ายเป็นบันไดขึ้นเมรุเผาศพในทางฮวงจุ้ยถือว่าอัปมงคล ทางที่ดีบริเวณประตูทางเข้าบ้าน อย่าทำขั้นบันไดจะดีที่สุดเพราะนอกจากจะเดินเข้าบ้านสะดวกแล้ว ยังไม่ต้องกังวลว่าจะผิดดฮวงจุ้ยหรือเปล่า

 

2.บันไดห้ามอยู่กลางบ้าน

บันไดอยู่กลางบ้านตำราบอกว่าจะส่งผลให้เจ้าของบ้าน อยู่บ้านไม่ติด ชีพจรลงเท้า มีเรื่องให้ต้องออกจากบ้านอยู่เสมอ นอกจากนี้ตามหลักฮวงจุ้ยยังบอกอีกว่า เจ้าของบ้านจะเป็นโรคหัวใจได้ง่าย เพราะตำแหน่งกลางบ้านอยู่ตรงกับตำแหน่งหัวใจพอดี คำว่ากลางบ้านจะหมายถึงใจกลางบ้าน ไม่ใช่ตรงกลางด้านข้าง

 

3.บันไดห้ามอยู่หน้าบ้าน

การวางบันไดไว้หน้าบ้าน ตำราบอกว่าทรัพย์จะไม่เหลือ ขโมยจะขึ้นบ้าน เจ้าของบ้านจะหมดตัว หลายบ้านที่มีบันไดอยู่หน้าบ้าน อาจจะรู้สึกกังวลขึ้นมาทันทีเพราะเดี๋ยวนี้แบบบ้านสมัยใหม่มักนิยมทำบันไดไว้หน้าบ้าน เรียกว่าโชว์บันไดให้เห็นกันเลย แต่ก็อย่าเพิ่งตกใจไป เหตุผลในทางฮวงจุ้ยบอกเอาไว้ว่า การเอาบันไดมาไว้หน้าบ้าน หรือเดินเข้าบ้านแล้วมองเห็นบันได โดยเฉพาะบันไดที่อยู่ในแนวตรงกับประตูทางเข้า จะถือว่าเสียหายเพราะกระแสชี่ที่ไหลเข้าสู่บ้านกับกระแสที่ไหลลงจากบันได ทำให้ชี่ที่ดีไม่สามารถเข้าบ้านได้ ในวงการฮวงจุ้ยเรียกว่าขัดทรัพย์ หรือจากโชคลาภไม่สามารถไหลเข้าได้นั่นเอง

 

นอกจากนี้กระแสที่ไหลลงจากบันไดแล้วออกสู่ประตูได้เลย ในทางฮวงจุ้ยก็เรียกว่าเงินไหลออก เจ้าของบ้านหาเงินมาเท่าไหร่ก็ไหลออกหมด บ้านที่มีบันไดตรงกับประตูบ้านจึงเป็นบ้านที่เก็บทรัพย์ไม่อยู่ ส่วนเรื่องโจรขโมย หลายคนมองว่าไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเอาบันไดมาไว้หน้าบ้านเลย ก็อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าคนสมัยก่อนจะมีความละเอียดรอบคอบมาก คนโบราณจะมองว่าการเอาบันไดมาไว้หน้าบ้าน จะทำให้พวกโจรขโมยสามารถมองเห็นช่องทางเข้าบ้านได้ง่าย รู้ว่าจะขึ้นชั้นบนทางไหนพูดง่ายๆก็คือรู้ทางหนีทีไล่นั่นเอง

 

ตำราฮวงจุ้ยระบุเอาไว้ว่าบันไดควรวางไว้ในตำแหน่งลับสายตาคน ไม่ควรวางเป็นจุดเด่นของบ้าน เดินเข้าบ้านไม่ควรมองเห็นบันได แต่ถ้าถามว่าในยุคสมัยตั้งแต่ปี 2000 มา การเอาบันไดมาไว้หน้าบ้าน จะมีผลกระทบเช่นสมัยก่อนหรือไม่ ก็คงจะตอบว่าพอจะมีบ้าง แต่น่าจะเป็นเรื่องของการใช้สอยภายในบ้านมากกว่า ตำแหน่งของบันไดที่ดีควรจะอยู่บริเวณส่วนกลางของบ้านด้านใดด้านหนึ่ง เหตุผลก็คือบันใดเป็นจุดเชื่อมระหว่างชั้นบนกับชั้นล่าง ตำแหน่งส่วนกลางจะเหมาะสมเพราะคนที่เดินลงมาจากชั้นบนสามารถที่จะเดินไปหน้าบ้านหรือหลังบ้านระยะทางที่พอๆกัน หากนำบันใดมาไว้หน้าบ้าน หากต้องการไปหลังบ้านจะต้องเดินไกลกว่า หรือถ้าเอาบันไดมาไว้หลังบ้าน การที่จะเดินไปหน้าบ้านก็เดินไกลเช่นเดียว กันกรณีบ้านหลังใหญ่จะมองเห็นภาพชัดในเรื่องนี้ ถ้าเป็นหลังเล็กอาจไม่ค่อยรู้สึกอะไร

 

เพราะฉะนั้นบันไดที่อยู่บริเวณส่วนกลางของบ้านจะได้ประโยชน์ที่สุดในการใช้สอยพื้นที่ภายในบ้าน นอกจากนี้ ถ้าบันไดอยู่หน้าบ้านใกล้กับประตูทางเข้า เวลาเดินเข้าบ้านก็สามารถขึ้นไปชั้นบนได้เลย ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนในบ้านลดลงไปได้ ประเภทตัวใครตัวมันต่างคนต่างอยู่ คนในสังคมตะวันออกอย่างบ้านเราจะให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ไม่เหมือนวัฒนธรรมตะวันตกที่จะฝึกให้คนอยู่อย่างตัวใครตัวมัน บ้านของคนตะวันตกจึงนิยมวางบันไดเอาไว้หน้าบ้าน แบบบ้านทรงยุโรปอย่างคฤหาสน์หลังใหญ่ออกแบบบ้านโชว์บันไดโค้งสวยงามขึ้นสู่ชั้นบนเหมือนในหนังหลายๆเรื่องที่เราเคยเห็น

 

ส่วนเรื่องโจรขโมยก็คงไม่ใช่ประเด็นสำคัญเพราะสมัยนี้ระบบป้องกันรักษาความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็น เหล็กดัด สัญญาณเตือนภัยรูปแบบต่างๆ ซึ่งในสมัยก่อนไม่มี คนโบราณจึงต้องป้องกันและเตือนให้ระวังไว้ก่อน สรุปก็คือการเอาบันไดมาไว้หน้าบ้านมีผลเสียอยู่บ้างทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของบ้านแต่ละหลังด้วย

 

4.บันไดควรวางในตำแหน่งซ้ายหรือขวาดีกว่ากัน

รูปลักษณ์ที่ให้ความสำคัญกับตำแหน่งเสือขาวมังกรเขียวก็จะบอกว่าต้องวางบันไดไว้ด้านซ้ายของบ้านเท่านั้น เพราะเป็นตำแหน่งของมังกรเขียวที่มีสภาพเคลื่อนไหว ห้ามวางด้านขวาซึ่งเป็นตำแหน่งเสือขาวที่มีความสงบนิ่ง จริงๆ เราสามารถเชื่อตัวเราเองและคนในครอบครัวได้เลย เพราะอาจมีความคิดเห็นที่หลากหลายมาก เราสามารถอิงหลักธรรมชาติการไหลเวียนภายในบ้าน ให้เป็นเรื่องหลักในการกำหนดตำแหน่งของบันไดโดยพิจารณาดังนี้

4.1 ถ้าประตูอยู่ซ้ายบันไดจะต้องอยู่ขวา

4.2 ถ้าประตูอยู่ขวาบันไดจะต้องอยู่ซ้าย

4.3 ประตูอยู่ตรงกลางบันไดจะอยู่ซ้ายหรือขวาก็ได้

 

เหตุผลที่เอาหลักฮวงจุ้ยนี้มาใช้ไม่ได้มีอะไรมาก เพราะหลักฮวงจุ้ยบอกว่าการไหลเวียนภายในบ้านที่ดี จะต้องไม่เป็นลักษณะเส้นตรงเข้าที่ประตู และตรงบันได การไหลเวียนจะปะทะกัน เพราะมีสภาพที่เคลื่อนไหวทั้งคู่ ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ในทางฮวงจุ้ยอยู่แล้ว หลักฮวงจุ้ยนี้จึงเป็นหลักที่ได้ผลที่สุด เพราะเป็นหลักธรรมชาติ คนเดินภายในบ้านจะรู้สึกเดินสบายลื่นไหลไม่ติดขัดไม่มีอะไรมาขวางหรือปะทะ

 

นอกจากนี้ถ้าสามารถเลือกวางบันไดให้อยู่ทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกได้ก็จะยิ่งดี เพราะเป็นที่ของแสงแดดบันไดต้องการความสว่าง ก็จะได้รับผลดีจากแสงอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นบันไดจะอยู่ซ้ายหรือขวา ก็คงไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัว จะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมมากกว่า

 

5.ทางขึ้นบันไดควรขึ้นเวียนซ้ายหรือเกวียนเวียนขวาถึงจะถูกหลัก

เป็นคำถามที่ถูกถามถึงมากอยู่เหมือนกัน บางคนอาจมองว่าต้องพิจารณาให้ละเอียดถึงขนาดนี้เลยหรอ ไม่เห็นต้องซีเรียสกับแค่การขึ้นลงบันได จะว่าไม่ซีเรียสเลยมันก็ไม่ถูก เพราะหลักฮวงจุ้ยได้เก็บรายละเอียดเอาไว้ให้หมดแล้ว เรื่องหลักของการเวียนบันไดนั้นความจริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องซีเรียส จะซ้ายหรือขวาก็ได้แต่ถ้าจะให้ถูกต้องก็ต้องดูกระแสจากประตูทางเข้าบ้านเป็นหลัก ถ้ากระแสมาทางซ้ายทางขึ้นบันไดจะต้องอยู่ขวาแล้วเวียนซ้ายขึ้นชั้นบน ถ้ากระแสมาทางขวาทางขึ้นบันไดจะต้องอยู่ซ้ายแล้วเวียนขวาขึ้นชั้นบน

 

หลักเกณฑ์นี้ถือว่าเป็นหลักธรรมชาติเพราะถ้ากระแสมาซ้าย และทางขึ้นบันไดอยู่ซ้าย ก็จะกลายเป็นการฝืนธรรมชาติของการไหลเวียนของกระแสชี่ที่ดี เนื่องจากการเดินจะต้องหักมุมคลื่นกระแสไม่ราบรื่นนั่นเอง การออกแบบบันไดตามกระแส จึงจะต้องถือว่าถูกหลักฮวงจุ้ย หากว่าทางขึ้นไม่ถูกต้องตามนี้ ก็อย่าเพิ่งตกใจถึงขนาดต้องรื้อบันไดทำใหม่ เพราะผลกระทบเรื่องนี้ไม่ได้มากอะไรเป็นแค่เรื่องของความสะดวกในการเดินขึ้นลงเท่านั้นเอง

 

6.บันไดต้องไม่แคบและลาดชัน

ลักษณะบันไดที่ดีจะต้องกว้างและไม่ลาดชันจนเกินไป ความลาดเอียงไม่ควรเกิน 45 องศา เพราะถ้าความลาดชันมากกว่านี้ในทางฮวงจุ้ยบอกว่า กระแสที่ไหลลงอย่างรุนแรง จะส่งผลร้ายมากกว่าผลดี ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว เพราะบันใดที่มีความแคบและลาดชันมากๆ ย่อมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหกล้มหรือลื่นตกบันไดลงมาได้ บันไดควรมีขั้นที่กว้าง เดินแล้วเต็มเท้าหากเหยียบลงไป และที่สำคัญบริเวณบันไดจะต้องมีแสงสว่างเพียงพอ อย่าปล่อยให้มืด ซึ่งเหตุผลก็เป็นเรื่องของความปลอดภัยจากการเดินให้ก้าวพลาด

 

7.จำนวนขั้นบันไดสำคัญหรือไม่

ในส่วนของจำนวนขั้นบันได มีวิธีการนับมีหลากหลายวิธี ตำราฮวงจุ้ยมีบอกเอาไว้เพียงแต่ว่า ขั้นบันไดควรเป็นเลขคี่ ห้ามเป็นเลขคู่ เพราะคี่เป็นหยางก็คือคนเป็น ส่วนคู่เป็นหยินก็คือคนตาย เหตุผลมีเพียงเท่านี้จริงๆ จำนวนขั้นบันไดจะมีกี่ขั้นไม่ใช่สาระสำคัญ จะขึ้นอยู่กับความสูงของบันไดซึ่งแต่ละบ้านจะไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้หลักธรรมชาติ โดยให้พิจารณาง่ายๆว่า ก้าวเท่าไหนก่อนก่อน ก็ให้ไปจบเท่านั้นบนชั้นสอง เช่น ก้าวเท้าซ้ายขึ้นก่อน ก็ต้องเป็นเท้าซ้ายที่ขั้นบนสุด ขั้นบันไดลักษณะนี้จะทำให้การเดินราบรื่น เพราะโดยธรรมชาติของการเดิน น้ำหนักการลงที่เท้าที่ถนัดซ้ายหรือขวาบนพื้นราบ ไม่ใช่ใช่ขั้นบันได จะให้ความรู้สึกที่มั่นใจกว่า เรื่องของขั้นบันไดจริงๆแล้ว ไม่ต้องให้ไปให้ความสนใจมากนัก จุดที่น่าสนใจมากกว่าก็จะเป็นเรื่องของความลาดชัน หรือความกว้างของบันได ที่เราจะทำอย่างไรให้เดินแล้วสบาย ไม่ต้องกลัวลื่นหรือหกล้มได้ง่าย ซึ่งเจ้าของบ้านและผู้ออกแบบโดยสถาปนิกควรจะต้องคำนึงถึงให้มากที่สุด

 

ที่มาและการอ้างอิง

ฮวงจุ้ยการสร้างบ้าน-ต่อเติมบ้าน โดย มาโนช ประภาษานนท์