การวางระบบไฟฟ้าภายในบ้าน หลายคนมองข้ามเรื่องนี้ไป แต่จริง ๆ แล้วเราควรต้องให้ความสำคัญในเรื่องของแสงสว่างค่อนข้างมาก เพราะบ้านอยู่อาศัยจัดได้ว่าเป็นฮวงจุ้ยคนเป็น
แสงสว่างบ่งบอกถึงพลังชีวิต เป็นพลังหยางที่เคลื่อนไหวและนำโชคลาภเข้ามาสู่บ้าน การจัดระบบไฟฟ้าจึงควรใส่ใจสักนิด ว่าคุณจะวางไฟไว้จุดใดของบ้านบ้าง ซึ่งในบทความนี้จะสรุปออกเป็น 8 รายการดังนี้
- ไฟหน้าประตูรั้ว ควรมีดวงไฟ 2 ดวง และเปิดทิ้งไว้ในเวลากลางคืน เพื่อดึงโชคลาภเข้าสู่บ้าน เพราะหากบริเวณตรงข้ามกับบ้านเป็นที่รกร้างไฟหน้าบ้านจะช่วยแก้พลังชี่คือหยินพิฆาตได้
- ไฟหน้าประตูบ้าน บริเวณทางเข้าบ้าน เป็นจุดที่ต้องการความสว่างเพราะฉะนั้นควรติดไฟอย่างน้อย 1 ดวง
- ไฟสนามบ้าน บ้านที่มีพื้นดินมากแล้วปล่อยว่างเป็นสนาม ควรติดไฟสนามเพื่อปรับความสมดุลของพื้นที่
- ไฟห้องนอน ไม่ควรใช้ไฟประเภทหลอดเปลือยมองเห็นดวงไฟ ควรจะเป็นโคมไฟที่กรองแสงหรือทำเพดานหลุมเพื่อซ่อนไฟเอาไว้ และห้ามวางตำแหน่งของดวงไฟตรงกับเตียงนอน เพราะแสงสว่างที่มากเกินไปจะรบกวนการนอนได้
- ไฟห้องน้ำ ควรใช้ไฟที่สว่าง เพราะห้องน้ำมีความชื้นมาก ยิ่งห้องน้ำที่อยู่ในตำแหน่งอับทึบไม่มีแสงจากธรรมชาติ ยิ่งต้องใช้ไฟที่สว่างเป็นพิเศษเพื่อเผาผลาญเชื้อโรคไล่ความชื้นให้หมดไป
- ไฟห้องทำงาน ห้องทำงานต้องการความกระตือรือร้นมีชีวิตชีวา ไฟในห้องนี้จึงต้องสว่าง เพราะแสงสว่างจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวกระฉับกระเฉง ถ้าใช้ไฟสลัวก็จะทำให้บรรยากาศภายในห้องน่าพักผ่อนมากกว่าทำงาน
- ไฟบันได บันไดถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่จะต้องสว่าง เพราะเป็นจุดขึ้นลงและมีความลาดชัน หากบริเวณบันไดไม่ติดดวงไฟ โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มหรือตกบันไดก็จะมีมาก
- ไฟระเบียง บริเวณระเบียงบ้านหรือดาดฟ้า ในตามหลักฮวงจุ้ยถือเป็นจุดรับพลังชี่ที่ดี การติดไฟไว้บริเวณระเบียงในเวลากลางคืน จะถือว่าเป็นตัวชักนำสิ่งที่ดีเข้าสู่บ้าน
ดังนั้นแล้ว การใช้ดวงไฟในการให้แสงสว่างภายในบ้าน หากเรารู้จักปรับใช้ให้ถูกกับการใช้สอยแต่ละห้องและแต่ละสถานที่ ก็จะช่วยส่งเสริมให้บ้านหลังนั้นมีฮวงจุ้ยที่ดี และทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวาได้มากขึ้นด้วย
ที่มาและการอ้างอิง
ฮวงจุ้ยการสร้างบ้าน-ต่อเติมบ้าน โดย มาโนช ประภาษานนท์