โรคทางภูมิแพ้เป็นโรคทางภูมิคุ้มกันชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากร่างกายได้รับสารที่แพ้เข้าไปและเกิดปฏิกิริยาของสารแพ้กับภูมิคุ้มกัน อาจเกิดขึ้นกับอวัยวะหนึ่งหรือหลายอวัยวะร่วมกันได้
อาการของผู้ป่วยมีได้ทั้งทางตา หู คอ จมูก ทางเดินหายใจ ส่วนทางเดินอาหารหรือทางผิวหนังอาการแพ้มีอยู่มากมายหลายชนิด คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ก็อาจแพ้สารคนละชนิดกับอีกคนได้ อีกทั้งสารก่อภูมิแพ้ก็มีความแตกต่างมากน้อยในแต่ละที่ด้วย
5 เรื่องที่ถูกถามบ่อยในโรคภูมิแพ้
1.โรคภูมิแพ้ใช่โรคติดต่อหรือไม่ แม้ว่าโรคภูมิแพ้จะไม่ใช่โรคติดต่อ แต่ก็สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ พบว่าถ้าพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้ลูกก็มีโอกาสเป็นประมาณ 60% แต่ถ้าพ่อหรือแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกก็มีโอกาสเป็นประมาณ 30%
2.เป็นหวัดบ่อยๆเป็นโรคภูมิแพ้หรือไม่ คำว่าโรคหวัดเป็นคำรวมๆ หมายถึงอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล จาม คัน หรือแสบจมูก แสบคอ เป็นต้น โรคภูมิแพ้ทางจมูกก็มีอาการเหล่านี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นในกรณีที่เป็นหวัดบ่อยๆ ก็อาจมีสาเหตุมาจากโรคภูมิแพ้ได้ และสามารถวินิจฉัยได้โดยร่วมกับการตรวจและทดสอบภูมิแพ้
3.โรคภูมิแพ้อันตรายหรือไม่ ภูมิแพ้ส่วนใหญ่เป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกรำคาญอึดอัดส่วนอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้แก่
- การแพ้โดยตรง เช่นแพ้อาหารแพ้แมลงกัดต่อยบางชนิด อาการที่เกิดค่อนข้างมากและเป็นในระยะเวลาสั้นๆ เช่น บวม ผื่นคัน หอบ หรือช็อกจนเสียชีวิตได้
- ผลกระทบข้างเคียงต่ออวัยวะต่างๆ เช่น ไซนัส หูน้ำหนวก ข้ออักเสบ เป็นต้น
4.โรคภูมิแพ้ใช่ภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือไม่ โรคทั้งสองเป็นโรคภูมิคุ้มกันเหมือนกัน แต่กลไกการเกิดต่างกัน เพราะฉะนั้นโรคทั้งสองจึงไม่เกี่ยวข้องกันเลย
5.โรคภูมิแพ้รักษาอย่างไรและหายขาดหรือไม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการรักษาโรคภูมิแพ้ คือ การหลีกเลี่ยงสารที่แพ้ เพราะถ้าไม่พบสารที่แพ้ก็จะไม่เกิดปฏิกิริยาทางภูมิแพ้ขึ้น เพราะฉะนั้นการที่รู้ว่าแพ้อะไรและหลีกเลี่ยงอย่างไรจึงสำคัญมาก
วิธีการรักษาอื่นๆได้แก่
1.การกินยา พ่นยา ฉีดยา เนื่องจากในปฏิกิริยาภูมิแพ้จะมีสารเคมีหลายชนิดเกิดขึ้นในร่างกาย ซึ่งสารเคมีเหล่านี้จะไปมีผลต่ออวัยวะต่างๆจนเกิดอาการขึ้นมาได้ การใช้ยาจึงเป็นตัวแก้ไขของสารเคมีเหล่านี้ ที่สำคัญได้แก่ ยากลุ่ม Antihistamine , Steroid แต่เนื่องจากยากลุ่ม Steroid ชนิดกินหรือฉีดแม้ว่าจะทำให้อาการทางภูมิแพ้ลดลงอย่างมากและรวดเร็ว แต่อันตรายก็สูงมากเช่นกันเพราะฉะนั้นการใช้ยาชนิดนี้ต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์อย่างถูกต้อง
2.การกระตุ้นภูมิแพ้ต่อสารภูมิแพ้ Skin test วิธีนี้เป็นการนำสารที่แพ้มากระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อสารนั้นๆ ในระดับที่เหมาะสม แต่วิธีนี้ผู้ป่วยต้องให้ความร่วมมืออย่างมาก เพราะการรักษาต้องใช้เวลานานและต่อเนื่องจึงจะได้ผลดี
การรักษาภูมิแพ้ไม่ว่าวิธีใดก็ไม่สามารถทำให้หายขาดได้ เพียงแต่การรักษาจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นในระยะยาว และช่วยป้องกันโรคที่อาจเป็นผลข้างเคียงจากภูมิแพ้ได้
source : ข้อมูลสุขภาพโดยโรงพยาบาลรามคำแหง