การวิจัยพบว่า การรับประทานเมล็ดองุ่น และการเคี้ยวเมล็ดโดยตรงจะทำให้ร่างกายได้รับสารพิฟีนอล ซึ่งจะช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ดีเท่ากับการรับประทานสารสกัดเข้มข้นจากเมล็ดองุ่น
ปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะคายเมล็ดองุ่นทิ้ง เพราะคิดว่ามันเป็นส่วนเกิน ต่อมาเราก็ได้ยิน ได้อ่านกันมาว่าเมล็ดองุ่นกินได้ และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ช่วยชะลอความชราได้ด้วย เพราะเมล็ดองุ่นมีสารที่ชื่อว่า “OPC” (Oligomeric Proanthocyanidin) เป็นสารที่มีสรรพคุณในเรื่องของการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย สารนี้จะช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ปกติแล้วเราพบสาร “OPC” ได้จากวิตามินซีและวิตามินอี ซึ่งมีค่าสูงมากกว่าวิตามินซีถึง 20 เท่า และสูงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า จากการวิจัยพบว่าการรับประทานเมล็ดองุ่น และการเคี้ยวเมล็ดโดยตรงจะทำให้ร่างกายได้รับสารพิฟีนอล ซึ่งจะช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ดีเท่ากับการรับประทานสารสกัดเข้มข้นจากเมล็ดองุ่น
Grape Seed มีสารสำคัญ คือ OPCs มีคุณสมบัติชอบจับกับโปรตีน และด้วยคุณสมบัตินี้ ทำให้ OPCs ช่วยให้คอลลาเจนแข็งแรง และเสื่อมสลายได้ยาก เพราะ คอลลาเจนก็คือโปรตีนที่เกิดจากกรดอะมิโน 4 ตัว ดังนั้น หากเรากินพร้อม หรือ หลังอาหาร จะไม่เกิดผลเลย เพราะ OPCs ที่เราหวังว่าจะให้ไปจับกับคอลลาเจน จะไปจับกับโปรตีนจากอาหาร หรือ นมที่เราทานเข้าไป ดังนั้น Grape Seed หรือ สารสกัดเมล็ดองุ่น จะให้ดีที่สุด คือทานก่อนอาหารเช้า ประมาณ ครึ่งชั่วโมง และก่อนเข้านอน(ตอนท้องว่าง) ส่วนผู้ที่ทานร่วมกับวิตามินซีหรืออาหารเสริม Grape Seed มีส่วนผสมของวิตามินซี ก็ให้ทานหลังอาหารทันที
27 สรรพคุณของสารสกัดจากเมล็ดองุ่น
- สร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรงมากขึ้น
- ชะลอความแก่และแห้งกร้านของผิว โดยการลดการทำงานของเอนไซม์ที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย
- ช่วยลดกระบวนการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติบนผิว ซึ่งมีสาเหตุมาจากฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ
- ปรับสภาพและลดปัญหาสีผิวที่ไม่เท่ากัน
- ช่วยป้องกันการสูญเสียวิตามินซี วิตามินอี
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ใช้ในการรักษาอาการจอประสาทตาเสื่อม
- มีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ซึ่งช่วยในการป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคไขข้ออักเสบ ลดภูมิแพ้จากยาต้านไวรัส ยาต้านมะเร็ง เป็นต้น
- ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโดยรวมของร่างกาย ทำให้ร่ายกายแข็งมากขึ้น โอกาสในการเจ็บป่วยจึงลดน้อยลงตามไปด้วย
- ช่วยในการรักษาอาการเบาหวานขึ้นตา
- ช่วยทำให้หายจากอาการบวมน้ำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตาในการมองเวลากลางคืน
- ช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร
- ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต โดยการยับยั้งการถูกทำลายของคอลลาเจน
- ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์
- ช่วยบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้ และหอบหืด
- ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสต่างๆ
- ช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ ให้น้อยลง จากการวิจัยพบว่าการรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นหลังจากที่เกิดอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ทำให้ลดอาการบวมและอาการปวดได้มากกว่าการรัลประทานยาหลอก (Placebo)
- ช่วยรักษาอาการเลือดออกตามไรฟัน ลดโอกาสการเกิดแผลในช่องปาก และโรคเริมในช่องปาก
- ช่วยลดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย แต่ควรออกกำลังกายร่วมด้วยให้เป็นประจำทุกวัน
- ช่วยในการรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนล้าเรื้อรัง
- สร้างฮอโมนอินซูลิน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลของร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย
- ป้องกันเบต้าเซลล์ในตับอ่อน
- ช่วยรักษาความผิดปกติของหลอดเลือดและเส้นเลือดฝอย ที่มีอาการเปราะบางมากกว่าปกติ
- ช่วยในการรักษาโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือโรคลูปัส (SLE)
- ช่วยบรรเทาอาการเส้นเลือดขอด มีผลงานวิจัยหลายชิ้นให้การรับรองว่าการรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นเป็นประจำ สามารถช่วยบรรเทาอาการเส้นเลือดขอดได้
- มีผลคล้ายกับยาแอสไพริน ในการชะลอการเกิดลิ่มเลือดอีกด้วย
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น ข้อควรระวัง
- สารสกัดจากเมล็ดองุ่นอาจมีผลในเรื่องของการชะลอการแข็งตัวของเลือด (ทำให้เลือดแข็งตัวช้า)
- ผู้ที่รับประทานยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือผู้ที่เป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด ไม่ควรรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น
- ก่อนการผ่าตัดหรือทำฟัน คุณควรหยุดรับประทานอาหารเสริมจากสารสกัดจากเมล็ดองุ่น เพราะจะทำให้เลือดออกง่ายไหลไม่หยุด
ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานทางวิทยาศาสตร์ว่า การรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นจะทำให้เกิดผลข้างเคียงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สาร OPC ภายในเมล็ดองุ่น อาจจะทำให้เกิด “อาการโลหิตแข็งตัวช้า” เนื่องจากความเข้มของเลือดลง อาจทำให้เกิดอาการเลือดไหลไม่หยุดได้ ถ้าหากใช้ร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด ดังนั้น ผู้ที่กำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือดอยู่ หรือมีปัญหาเลือดแข็งตัวช้า ควรทำการปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้สารสกัดจากเมล็ดองุ่น รวมไปถึงเด็กและสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ไม่ควรรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น
วิธีการเลือกซื้อสารสกัดจากเมล็ดองุ่น
ให้พิจารณาปริมาณของสารเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่เหมาะสม ซึ่งโดยปกติแล้ว สารสกัดจากเมล็ดองุ่นควรมีปริมาณสาร POC อยู่ที่ประมาณ 92-95% เช่น สารสกัดเมล็ดองุ่น 100 มก. OPC 90% ก็จะได้ค่า OPC 90 ดังนั้นใน 1 เม็ด จึงมี OPC ประมาณ 90 มิลลิกรัม หากการใช้เพื่อรักษาสุขภาพ ควรเลือกประมาณวันละ 50-100 มิลลิกรัม แต่หากต้องการใช้เพื่อบำบัดโรค ควรใช้ในปริมาณวันละ 150-300 มิลลิกรัม
source : pantip , medthai , disthai