กระเทียมถูกใช้เป็นสมุนไพรมานานมาก ใช้เป็นทั้งยาภายนอกและภายใน สรรพคุณของกระเทียมครอบจักรวาล แต่เด่นในเรื่องเกี่ยวกับเลือดเพราะกระเทียมมีสารที่ทำให้เลือดลื่น จึงช่วยในการกระจายเลือดและขับพิษออกจากเลือดได้ดี และไม่ว่าจะนำไปใช้เข้าเป็นตัวยาเพื่อรักษาโรคใดก็ตาม จะใช้เนื้อกระเทียมเป็นสำคัญ
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ทำมาจากกระเทียมหลากหลายชนิด แต่ละชนิดต่างก็มีราคาแตกต่างกันไป เพราะกระเทียมสดกับกระเทียมผงบรรจุแคปซูลมีคุณสมบัติแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย เนื่องจากกระเทียมจะเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นหากสับหรือบดทิ้งไว้สัก 10-15 นาทีก่อนใช้ เมื่อเซลล์ของกระเทียมแตกตัว สารแอลไลซินจะถูกย่อยสลายโดยเอนไซม์อัลลิเนส กลายเป็นสารอื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น สารอัลลิซินอัลลิลิน อัลลิซิน ไทโรซิเนส เป็นต้น ซึ่งสารแต่ละชนิด มีดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายแตกต่างกันไป ทั้งการต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงเลือด กระจายเลือด ขับลม บำรุงหัวใจ และรักษามะเร็ง
กระเทียมโทนหรือกระเทียมดอง
มีสรรพคุณทางสมุนไพรเยอะไม่แพ้กระเทียมสด สรรพคุณที่โด่ดเด่นคือลดไขมันในเส้นเลือด รักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ป้องกันเลือดจับตัวเป็นลิ่ม ป้องกันหัวใจขาดเลือด ดังนั้น การรับประทานกระเทียมโทนเป็นประจำย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพ
วิธีการทำกระเทียมโทน : นำหัวกระเทียมโทนมาปอกเปลือก ใส่ลงในโหลที่ผ่านการฆ่าเชื้อ เทน้ำผึ้งลงไปจนท่วมกระเทียม ปิดฝาให้สนิท ดองกระเทียมโทนทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ เมื่อครบกำหนดแล้ว ให้นำกระเทียมโทนออกมารับประทานสดๆ ก่อนอาหารพร้อมกับน้ำยา (น้ำผึ้งที่ใช้ดอง) ครั้งละ 3 หัว รับประทานติดต่อกันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ปริมาณไขมันที่อุดตันในเส้นเลือดจะค่อยๆ บรรเทาเบาบางลง
กระเทียมดำคืออะไร
กระเทียมดำ คือกระเทียมขาวที่เรารู้จักกัน แต่ได้มีการนำกระเทียมขาวมาผ่านการหมักบ่มด้วยอุณหภูมิประมาณ 65 – 80 องศาเซลเซียส ภายในห้องควบคุมที่มีความชื้นประมาณ 70 -80 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลานาน 1 เดือน ซึ่งผลที่ออกมาก็คือสีของกระเทียมที่เปลี่ยนไปเป็นสีดำ สำหรับการกินกระเทียมดำ เหมือนกับการกินเทียมขาวทั่วไป แต่เพื่อเพิ่มคุณค่าและประโยชน์ให้มากขึ้น ควรบดหรือสับกระเทียมตั้งทิ้งไว้สักครู่ก่อนแล้วจึงนำมาปรุงอาหาร ระหว่างนั้นกระเทียมดำจะมีการหลั่งสารสำคัญบางอย่างออกมามากขึ้น ทำให้ได้ประโยชน์มากกว่าการนำกระเทียมดำมาทำอาหารในทันที ซึ่งให้สรรพคุณที่มากกว่ากระเทียมขาวอย่างมากด้วย
- ช่วยลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง
- ควบคุมระดับไขมันในเส้นเลือด
- ช่วยรักษาแผลทั้งแผลสดและแผลเรื้อรัง
- ช่วยลดการเกิดโรคหัวใจที่มีสาเหตุมาจากการอุดตันของเส้นเลือด ทั้งจากเกล็ดเลือดที่จับตัวเป็นก้อน
- ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้สามารถต่อสู้กับเซลมะเร็งได้ดีขึ้น
- ช่วยให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของก้อนเนื้อ
- สารอัลลิซินและสารสคอร์ดินินที่อยู่ในกระเทียม ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ เช่น คอตีบ ปอดบวม วัณโรค
- ช่วยบรรเทาอาการเบาหวาน สารอัลลิซินจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารอินซูลิน ทำให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลได้มากขึ้น
- ช่วยลดความดันโลหิต ลดไขมันในเส้นเลือด ลดคอเลสเตอรอล
- ขับเสมหะและมีฤทธิ์ขับเหงื่อและขับปัสสาวะ
- แก้หืดและโรคหลอดลม
- ช่วยรักษาโรคตับอ่อนอักเสบชนิดรุนแรง
- ขับพยาธิต่างๆ ได้หลายชนิด ได้แก่ พยาธิเข็มหมุด พยาธิแส้ม้า พยาธิเส้นด้าย
- ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่มักทำให้เกิดโรคได้ถึง 15 ชนิด
- แก้อาการท้องอืดเฟ้อ ช่วยขับลมในลำใส้
- ช่วยรักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน
- ช่วยรักษาอาการของโรคลักปิดลักเปิด หรือโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูกน้ำมูกไหล เนื่องจากการแพ้อากาศ
- กระเทียมสดดองในน้ำผึ้ง ช่วยบรรเทาอาการน้ำมูกไหลได้
- กระเทียมจะมีกลิ่นฉุน กลิ่นแรง รับประทานมาก ๆ ก็จะกลิ่นติดปากได้ วิธีแก้ง่าย ๆ คือ ดื่มชาร้อนสัก 2 ถึง 3 แก้ว หากคุณทานกระเทียมทุกมื้อ ชาร้อนช่วยเรื่องกลิ่นปากได้ อีกทั้งการดื่มชาร้อนทั้งวันทุกวันยิ่งดี เพราะชาร้อนช่วยเรื่องสุขภาพด้านอื่น ๆ และลดกลิ่นปากด้วย
- ความเผ็ดร้อนของกระเทียม อาจทำให้เกิดการระคายเคืองทั้งในช่องปากและช่องท้อง ทำให้เกิดอาการร้อนในตามมา หรืออาจทำให้กระเพาะอักเสบ ปวดท้อง แน่นท้องและมีลมในช่องท้องได้ หากรับประทานในขณะที่ท้องว่าง
- หากรับประทานกระเทียมแล้วเกิดอาการคัน มีผื่นขึ้นตามตัว หรือมีอาการแน่นหน้าอก ให้หยุดรับประทานทันทีและรีบไปพบแพทย์ เพราะอาจเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง
- กระเทียมส่งผลต่อหัวใจและหลอดเลือด มีสรรพคุณในการต้านการแข็งตัวของเลือด ยับยั้งการเกาะกันของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดเหลวและแข็งตัวช้า
source : th.wikipedia , honestdocs