เครื่องฟอกอากาศมีประสิทธิภาพดีกว่าเครื่องปรับอากาศ เหมาะสำหรับห้องที่อับ มีฝุ่น หรือระบายอากาศไม่ค่อยดี ห้องที่มีลักษะดังกล่าวจึงเหมาะควรที่จะใช้เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศคืออะไร
เครื่องฟอกอากาศจะทำหน้าที่จะกรองสิ่งสกปรกจากฝุ่นละออง ซึ่งรวมถึงมลพิษในอากาศ เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ มลพิษจากก๊าซ กลิ่นเหม็นอับ ละอองเกษรดอกไม้ รา และ แบคทีเรียจากอากาศ ให้ออกไปจากห้อง ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้หรือมีอาการหอบหืด จะได้รับประโยชน์จากเครื่องฟอกอากาศไปเต็ม ๆ เพราะคนกลุ่มนี้มักจะมีความรู้สีกไวต่อมลพิษต่าง ๆ มากกว่าคนปกติ โดยจะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจติดขัด ดังนั้นเครื่องฟอกอากาศจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญและทำให้คนกลุ่มนี้ได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน แต่เราต้องเข้าใจก่อนว่า เครื่องฟอกอากาศไม่ใช่สิ่งทดแทนการรักษาความสะอาดในบ้าน แต่เป็นเครื่องสำหรับระบายอากาศที่ไม่ดีต่าง ๆ ออกไป ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดอย่างหนึ่ง
เครื่องฟอกอากาศทำงานอย่างไร
1. ระบบแผ่นฟอกอากาศ หรือตะแกรงประจุ มีหน้าที่สำหรับดักจับฝุ่นที่ผ่านเข้ามา รวมถึงดักจับละอองควัน เราจึงควรเปลี่ยนแผ่นฟอกอากาศนี้หากพบว่าชำรุด หรือหมดอายุการใช้งาน และควรหมั่นทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้สามารถรดักจับเชื้อโรค และเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย
2. ระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ คือการพ่นประจุ + และ – ออกมา จะส่งผลให้ผู้อยู่ในบริเวณที่ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศรู้สึกสดชื่น ด้วยความที่ระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ จะทำการฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียต่างๆ ทุกบริเวณของห้อง รวมถึงสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียในอากาศได้ และสามารถสลายตัวไรฝุ่นได้ด้วย ซึ่งเหมาะเป็นอย่างมากโดยเฉพาะ เด็ก ทารก ผู้ป่วย ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นหวัดง่าย เพราะสามารถสลายเชื้อโรค กลิ่น และควันต่าง ๆได้ดี
วิธีการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ
วิธีการจะเหมือนกับการซื้อเครื่องปรับอากาศ ต้องดูว่าห้องมีขนาดเท่าใด และควรดูค่า Air Changes per hour หรือค่าการเปลี่ยนถ่ายอากาศทุกชั่วโมงของเครื่องฟอกอากาศว่าเป็นค่าอะไร เช่น 6 ก็แปลว่าสามารถรับอากาศสดชื่นได้ทุก 6 ชั่วโมง จากนั้นให้ดูค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) คืออัตราการเปลี่ยนถ่ายอากาศต่อชั่วโมง ตัวเลขนี้จะได้จากการวัดปริมาณอากาศทั้งหมด ที่ระบบฟอกอากาศสามารถทำความสะอาดได้ภายใน 1 นาที ส่วนมากจะระบุด้วยตัวเลข 3 ชุด ยิ่งตัวเลขสูงเท่าไร ก็เท่ากับว่าเครื่องฟอกอากาศจะสามารถกรองสิ่งสกปรกได้ดีมากเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นจุดสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาเลือกซื้อด้วย
ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของตัวเครื่อง สามารถเลือกตามรุ่น แต่จุดสำคัญที่ควรมี ก็คือระบบ Auto Mode ที่สามารถปรับระดับความแรง/เบาของเครื่องฟอกอากาศได้เองอัตโนมัติ รวมถึงควรมีฟังก์ชั่นตั้งเวลาเปิด/ปิด เพื่อให้เครื่องสามารถหยุดการทำงานได้ด้วยตัวเองในกรณีที่ไม่มีใครอยู่บ้าน และไม่ควรเสียงดังจนเกินไป เพราะอาจทำให้รบกวนการนอนหลับในเวลากลางคืนได้ ส่วนในเรื่องอะไหล่ควรศึกษาไว้ก่อนที่จะเลือกรุ่นที่ใช้ด้วย เพราะก็อาจมีราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะแผ่นกรองหรือไส้กรองต่าง ๆ จึงควรสอบถามผู้ขายเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อ
5 เครื่องฟอกอากาศขายดี
1.XPX เครื่องฟอกอากาศ JD68
รายละเอียดสินค้า : กรองได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถกรองฝุ่นได้ มีไฟบอกสถานะอากาศภายในห้อง เครื่องฟอกอากาศ JD68 หน้าจอมีสถานะค่าอากาศบอก 3 สี ความเร็วลม 3 ระดับ เสียงเบาเพียง 50 dB มีระบบกรอง 5 ชั้นเพื่ออากาศที่บริสุทธิ์ จึงเหมาะสำหรับห้องขนาด 20-30 ตารางเมตร ทั้งยังตั้งเวลาทำงานได้ รวมถึงมีระบบฆ่าเชื้อราด้วย
2.Xiaomi Mi Air Purifier 2S
รายละเอียดสินค้า : มีระบบกรองอากาศแบบ 3 ชั้น รอบทิศทาง (360 องศา) พร้อมกับเซนเซอร์ตรวจจับอนุภาคด้วยเลเซอร์ที่จะวัดค่าทั้ง อุณหภูมิห้อง ความชื้น และคุณภาพอากาศ มีหน้าจอ OLED ที่แสดงค่าต่างๆ อยู่บนตัวเครื่อง เหมาะสำหรับห้องขนาด 21-37 ตารางเมตร สามารถผลิตอากาศบริสุทธิ์ออกมาได้ถึง 310 ลบ.ม./ชั่วโมง ในเวลาเพียง 10 นาที ตั้งเวลาเปิด-ปิด ผ่านทางแอพบนสมาร์ทโฟนได้ แจ้งเตือนการเปลี่ยนไส้กรองผ่านทางสมาร์ทโฟนอัตโนมัติ เสียงรบกวนต่ำ ใช้พลังงานต่ำ ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ใช้ไฟน้อยสุดแค่ 2 วัตต์ และสูงสุดเพียง 29 วัตต์
3.Sharp เครื่องฟอกอากาศ รุ่น FP-J30TA
รายละเอียดสินค้า : มีระบบ 3 ขั้นตอนในการกรองฝุ่น ทำงานด้วยเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ สามารถฆ่าเชื่อโรค เชื้อรา เชื้อภูมิแพ้ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไข้หวักนก H5N1 ในอากาศ และสลายกลิ่นอับชื้น ตลอดจนสลายฤทธิ์สารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่น ล่าสุด!!! ทดสอบแล้วว่าสามารถทำลายเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ได้ เครื่องปล่อยอนุภาคพลัสม่าคลัสเตอร์ความเข้มข้นสูงเพื่อทำความสะอาดอากาศในห้อง มีฟังก์ชั่นตั้งเวลา 4 หรือ 8 ชั่วโมง มีไฟสัญลักษณ์แสดงการเปลี่ยนไส้กรอง (กรณีใช้เครื่องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 2 ปี)ในโหมดนอนหลับ ดีไซน์โค้งมน เพื่อความปลอดภัยของเด็กเล็ก แผ่นกรองฝุ่น และแผ่นกรองกลิ่น มีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี (ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน)
4.XPX เครื่องฟอกอากาศ JD55
รายละเอียดสินค้า : หน้าจอสัมผัส และมีสถานะค่าอากาศบอก มีโหมดนอนหลับ ลดแสดงหน้าจออัตโนมัติ ไม่รบกวนการนอน เสียงเบาเพียง 40 dB กรองหลายชั้น เพื่ออากาศที่บริสุทธิ์
เหมาะสำหรับห้องขนาด 32 ตารางเมตร
5.Sharp เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ พลาสม่าคลัสเตอร์ รุ่น IG-DC2B สีแดง (Crystal Red)
รายละเอียดสินค้า : Sharp เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ พลาสม่าคลัสเตอร์-รุ่นIG-DC2B-Red ช่วยให้คุณได้ฟอกอากาศบริสุทธิ์ เพื่อรถยนต์ส่วนตัวของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยพลังเทอร์โบ(Turbo Mode)ที่เพิ่มจำนวนอนุภาคพลาสม่าคลัสเตอร์+และ-มากขึ้นจากปกติถึง2เท่า แบบเข้มข้น(Hight Density)ที่เพิ่มประสิทธิภาพการฟอกอากาศ กำจัดเชื้อโรค ฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียสลายกลิ่นอับชื้นในอากาศ ตลอดจนสามารถฆ่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็วทันใจ คุณจึงสามารถวางใจและเตรียมรับอากาศที่บริสุทธิ์ภายในรถของคุณได้ทันทีที่เครื่องเริ่มทำงาน