อพาร์ตเมนต์และคอนโดมิเนียม เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ไม่เหมาะจะนำมาทำเป็นที่อยู่อาศัยแบบถาวร เนื่องจากมีรูปแบบการก่อสร้างที่ผิดหลักฮวงจุ้ย
ที่อยู่ประเภทอพาร์ตเมนต์และคอนโดมิเนียม หมายรวมถึงที่อยู่อาศัยทุกชนิดที่สร้างแบบลอยฟ้าและมีลักษณะเป็นอาคารชุด อพาร์ตเมนต์และคอนโดมิเนียมหรือที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดลอยฟ้าต่าง ๆ ก็มีช่องสำหรับระบายอากาศ และให้แสงสว่างส่องเข้ามาภายในตัวห้องได้เพียงทางเดียว คือระเบียงด้านหน้าที่เป็นช่องเปิดสำหรับมองออกไปนอกอาคาร จึงทำให้มีด้านมืดมากถึง 3 ด้าน ซึ่งถือว่าผิดหลักฮวงจุ้ยอย่างมาก
เนื่องจากขาดความสมดุลระหว่างหยินและหยาง และด้วยความสูงที่มีอยู่หลายชั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมเป็นเวลานานจะรู้สึกได้ถึงความไม่มั่นคง ขาดหลักยึดเหนี่ยวและไม่ปลอดภัยในชีวิต
(ฮวงจุ้ย) 12 ข้อการเลือกอพาร์ตเมนต์และคอนโดมิเนียม
1.การเลือกอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียม
ในการพิจารณาฮวงจุ้ยของอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมให้พิจารณาทั้งหลังไม่เฉพาะห้องใดห้องหนึ่ง เพราะอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมเปรียบเสมือนบ้านเดี่ยวหลังหนึ่ง ห้องที่เราอาศัยอยู่เป็นเพียงห้องหนึ่งในจำนวนหลาย ๆ ห้องของอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมหลังนั้นเท่านั้น
ไม่ควรเลือกที่ตั้งโดดเดี่ยวโดยไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดอยู่ข้าง ๆ เพราะถือว่าเป็นลักษณะต้องห้าม ผู้ที่พักอาศัยจะอยู่ในสภาพที่ต้องพึ่งพาตัวเอง ขาดกำลังสนับสนุน ทำการอันใดกว่าจะสำเร็จได้ต้องเหนื่อยยากเพราะต้องอาศัยลำแข้งของตัวเอง
หลีกเลี่ยงอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้ทางด่วน ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เช่น ชิ้นส่วนของสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวพังทลายลงมา หรือรถยนต์แหกโค้งตกสะพาน ห้องที่อยู่ในระดับเดียวกันกับทางด่วน รวมไปจนถึงห้องที่อยู่ต่ำลงมาจะได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุนั้นอย่างเต็มที่
2.หลีกเลี่ยงห้องที่อยู่ติดกับถนน
ห้องที่อยู่ในระดับเดียวกับถนนหรืออยู่ต่ำลงมา นอกจากจะถูกถนนดังกล่าวบดบังทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว เสียงยวดยานที่ดังหนวกหู ฝุ่นผงจากถนนรวมไปจนถึงควันพิษที่พ่นออกมาจากท่อไอเสียยังเป็นตัวการสำคัญในการทำลายสภาพแวดล้อมภายในห้องจากที่แย่อยู่แล้วให้หนักขึ้นไปอีก
หากจำเป็นต้องอยู่ในห้องที่มีลักษณะดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การปิดม่านหนา ๆ ในด้านที่ปะทะกับถนนจะช่วยป้องกันฝุ่นละออง ควันพิษ และช่วยดูดเสียงที่ดังหนวกหูได้ดีในระดับหนึ่ง
3.อพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมที่ถูกแวดล้อมด้วยอาคารสูง
อพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมที่ถูกอาคารสูงล้อมรอบ จะถูกอิทธิพลของอาคารเหล่านั้นข่ม ทำให้ขาดความเจริญก้าวหน้า อับโชค และไม่เติบโต ผู้ที่อาศัยในอาคารที่ถูกปิดล้อมดังกล่าวจะได้รับผลกระทบทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ร่างกายจะอ่อนแอ เจ็บออด ๆ แอด ๆ ตลอดเวลา เพราะอากาศในที่อยู่อาศัยถ่ายเทได้ไม่สะดวก จิตใจหดหู่ มองไปทางไหนก็เจอแต่ทางตัน มีวิสัยทัศน์ไม่กว้างไกล มีชีวิตอยู่ด้วยความเคร่งเครียดสูงกว่าคนที่อยู่ในอาคารแบบอื่น
4.อพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี
อพาร์ตเมนต์และคอนโดมิเนียมที่ดีควรอยู่ในแหล่งที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี เช่น อยู่ใกล้ที่ทำงาน มีเส้นทางการคมนาคมที่สะดวกสบาย อยู่ในแหล่งชุมชน หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ เช่น อยู่ติดแม่น้ำ สนามเด็กเล่น หรือสวนสาธารณะไม่ถูกบดบังทิวทัศน์จากอาคารข้างเคียง เมื่อมองออกมาภายนอกแล้วเห็นทิวทัศน์ที่สดชื่น และอยู่ห่างจากสิ่งปลูกสร้างต้องห้ามทางฮวงจุ้ย
ในทางฮวงจุ้ยได้มีการกล่าวถึงวิธีการเลือกห้องและชั้นตามลักษณะของอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียม เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัยดังต่อไปนี้
- ตึกธาตุไฟ
ลักษณะของตึก : อาคารที่มียอดตึกเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือมีจั่วสามเหลี่ยมหรือเป็นตึกสี่เหลี่ยมด้านไม่เท่าที่ดูคล้ายสามเหลี่ยม
ควรเลือกห้องหรือชั้นหมายเลข : 2 7 12 17 20 27
- ตึกธาตุน้ำ
ลักษณะของตึก : อาคารที่เป็นทรงโค้งมน มีส่วนโค้งเว้าคล้ายคลื่นในทะเล
ควรเลือกห้องหรือชั้นหมายเลข : 1 6 10 16 26 36
- ตึกธาตุดิน
ลักษณะของตึก : เป็นตึกทรงสี่เหลี่ยมสมบูรณ์ ไม่มีส่วนเว้าแหว่ง
ควรเลือกห้องหรือชั้นหมายเลข : 5 10 15 20 25
- ตึกธาตุไม้
ลักษณะของตึก : อาคารที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมแนวตั้งหรือเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าทรงสูง
ควรเลือกห้องหรือชั้นหมายเลข : 3 13 18 23 28 30
- ตึกธาตุทอง
ลักษณะของตึก : อาคารที่เป็นรูปครึ่งวงกลม หรือทรงกลม หรือตึกที่มีโดมอยู่ข้างบน
ควรเลือกห้องหรือชั้นหมายเลข : 4 9 14 19 40
6.อพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมที่ควรหลีกเลี่ยง
1.ควรหลีกเลี่ยงอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมที่มีการจัดผังไม่ดี เพราะจะส่งผลด้านลบให้แก่ผู้อยู่อาศัย
2.คอนโดมิเนียมที่สร้างไม่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยจะส่งผลร้ายต่อผู้อยู่อาศัยทั้งทางด้านสุขภาพ เงินทอง หน้าที่การงาน รวมไปจนถึงความมั่นคงในชีวิต
3.หลีกเลี่ยงคอนโดมิเนียมที่มีจำนวนลิฟต์หรือบันไดที่ไม่สมดุลกับจำนวนห้องและผู้อยู่อาศัยในแต่ละชั้น
4.ควรมีบันไดหนีไฟสำหรับใช้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน บันไดควรมีความกว้างที่พอเหมาะและสะดวกในการวิ่งหรือเดินสวนกัน ไม่แคบหรือชันเกินไปจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุ
5.ลิฟต์ควรมีขนาดที่ใหญ่มากพอ และสามารถรับน้ำหนักจำนวนคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมนั้นได้ สามารถใช้การได้ดี ไม่เสียอยู่บ่อย ๆ ลิฟต์หรือบันไดควรตั้งอยู่ในตำแหน่งตรงกลางของแต่ละชั้นเพื่อความสะดวกต่อการเข้าออกตัวอาคาร
7.เลือกห้องพักให้ถูกโฉลกตามปีเกิด
นอกจากการดูฮวงจุ้ยของตัวอาควรและสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ แล้ว การเลือกทิศของห้องให้ถูกต้องตามปีเกิดของเจ้าของห้องก็จะช่วยส่งเสริมโชคลาภให้แก่ผู้ที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมนั้นด้วยเช่นกัน
ชวด กุน
ทิศที่เป็นสิริมงคล : ตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือ เหนือ
ทิศอัปมงคล : ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้
ฉลู มะโรง มะแม จอ
ทิศที่เป็นสิริมงคล : ใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้
ทิศอัปมงคล : ตะวันออก
ขาล เถาะ
ทิศที่เป็นสิริมงคล : เหนือ ตะวันออก
ทิศอัปมงคล : ตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือ
มะเส็ง มะเมีย
ทิศที่เป็นสิริมงคล : ตะวันออก ใต้
ทิศอัปมงคล : เหนือ
วอก ระกา
ทิศที่เป็นสิริมงคล : ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ ตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือ
ทิศอัปมงคล : ใต้
8.เลือกทิศของห้องให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย
1.ควรเลือกห้องที่อยู่ทางทิศใต้และทิศตะวันออก เพราะอากาศจะถ่ายเทได้สะดวก แดดไม่ร้อนเกินไป และมีอากาศเย็นสบายกว่าห้องที่อยู่ทางทิศอื่น ๆ
2.หลีกเลี่ยงห้องที่อยู่ทางทิศเหนือและทิศตะวันตก เพราะเป็นตำแหน่งที่อับลม อากาศถ่ายเทไม่สะดวก อุณหภูมิของห้องจะร้อนในช่วงกลางวัน ในฤดูหนาวจะได้รับลมหนาวอย่างเต็มที่ ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยเจ็บป่วยง่าย
9.การแบ่งประเภทของพื้นที่ใช้สอย
เนื่องจากที่อยู่อาศัยประเภทอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียม จะมีการแบ่งพื้นที่ของห้องออกเป็นส่วน ๆ ตามลักษณะการใช้งานภายในพื้นที่เดียวกัน จึงทำให้เกิดการปะปนกันระหว่างพลังหยินและหยาง ดังนั้นจึงควรมีการแบ่งพื้นที่การใช้สอยออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อรักษาการไหลเวียนของพลังชี่เอาไว้
พื้นที่ใช้สอยภายในอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1.พื้นที่ที่ต้องการพลังหยิน คือ ห้องนอน
2.พื้นที่ที่ต้องการพลังหยาง คือ ห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องครัว รวมไปจนถึงห้องอื่น ๆ ที่คนมักเดินเข้าออกพลุกพล่าน
10.ตำแหน่งของพื้นที่ภายในห้อง
1.ควรแยกพื้นที่สำหรับนอนซึ่งเป็นส่วนที่ต้องการความเงียบสงบออกจากพื้นที่ส่วนอื่น เพื่อรักษาพลังหยินไม่ให้ถูกรบกวน
2.บริเวณที่เหมาะที่สุดสำหรับพื้นที่สำหรับนอนคือ บริเวณด้านหลังสุดของตัวห้อง ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ห่างจากประตู หรือทางเดินเข้าออกมากที่สุด
3.พื้นที่ใช้สอยส่วนอื่น ๆ เช่น พื้นที่สำหรับรับแขก พื้นที่สำหรับทำครัว ควรอยู่ถัดออกมาข้างนอก เพราะพื้นที่เหล่านี้มีพลังหยาง จึงควรอยู่ในสภาพที่ตื่นตัว กระตือรือร้น มีคนเดินเข้าออกตลอดเวลา ซึ่งต่างจากพื้นที่สำหรับนอนที่ต้องการความสงบเงียบและความเป็นส่วนตัวมากกว่า
11.การตกแต่งห้อง
1.หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ตกแต่งบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ในการกั้นพื้นที่ เพราะจะทำให้ห้องจากที่เล็กอยู่แล้วยิ่งแคบและมืดทึบลงไปถนัดตา
2.ควรใช้กระจกหรือพลาสติกที่มีความหนาแต่ใส่ในการกั้นพื้นที่ เพราะนอกจากจะไม่ใช้พื้นที่มากแล้ว แสงสว่างจากภายนอกนอกยังสามารถสาดส่องเข้ามาได้ทั่วถึงทั้งห้องอีกด้วย
3.ควรใช้กระจกชนิดที่ช่วยป้องกันเสียงดังมากั้นพื้นที่สำหรับนอนออกจากพื้นที่ส่วนอื่น ๆ เพื่อป้องกันมิให้พลังหยินของห้องนอนถูกทำลายจากเสียงที่ดังมาจากข้างนอก ในกรณีที่มีคนมาเยี่ยมบ้านหรือมีการจัดงานเลี้ยงขึ้นในยามค่ำคืน
4.หลีกเลี่ยงการใช้สีแสบตาหรือเจิดจ้ากับส่วนที่เป็นห้องนอน เพราะจะรบกวนการนอน ควรใช้สีที่มีความนุ่มนวล อบอุ่น จะช่วยทำให้หลับได้ง่าย
5.ควรใช้สีที่ให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉงตื่นตัวกับพื้นที่ที่ต้องการพลังหยาง
6.ไม่ควรใช้สีที่ชวนให้หลับกับพื้นที่ส่วนอื่น ๆ มากเกินไป เพราะจะทำลายพลังหยางของพื้นที่ดังกล่าวเสียหมด ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่รู้สึกเฉื่อยชา ไม่กระตือรือร้น
7.สีที่เหมาะที่สุดในการตกแต่งห้องคือสีขาว เพราะเป็นสีที่ใช้ได้กับพื้นที่ทั้งสองประเภท
12.เปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศ
ที่อยู่ประเภทอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียม จะมีระบบการระบายอากาศที่ไม่ดี เนื่องจากมีช่องเปิดเพียงแค่ช่องเดียว หากไม่หมั่นรักษาความสะอาดให้ดี ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในอาจล้มป่วยได้ง่าย ๆ
ควรหมั่นเปิดประตูหน้าต่างเพื่อรับแสงสว่างในช่วงเวลากลางวันให้มากและบ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อระบายอากาศความชื้น รวมไปจนถึงสารเคมีจากน้ำยาปรับอากาศ และน้ำยาทำความสะอาดพื้นที่อุดอู้อยู่ภายในห้อง และให้แสงสว่างได้ทำลายเชื้อโรคที่หมักหมมอยู่ แม้ว่าวิธีนี้จะไม่ได้ช่วยปรับสมดุลของหยินหยางได้อย่างเด็ดขาด แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
Source : จัดบ้านจัดสวนแบบนี้ ยิ่งอยู่ยิ่งรวย (ฉบับปรับปรุง) อนันต์ ตั้งจงกิจเจริญ