การเปลี่ยนแปลงบ้านไปจากเดิม ผู้ที่วิเคราะห์ฮวงจุ้ยจะต้องถามเจ้าของบ้านเสมอว่า มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เพราะจุดนั้นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทําให้ฮวงจุ้ยเสียได้
การต่อเติมบ้าน ตัวแปรลักษณะหนึ่ง ที่จะส่งผลกระทบต่อฮวงจุ้ยของบ้านได้ เพราะทําให้บ้านมีการเปลี่ยนแปลงฮวงจุ้ยไปจากเดิม ตัวแปรที่ว่าก็คือเรื่องของการต่อเติมบ้านบ้านเก่าที่อยู่มาหลายปี ก็มักจะมีการขยับขยายห้องหับตามสมาชิกในบ้านที่เพิ่มขึ้น
ในตาราฮวงจุ้ย ได้มีการกล่าวเตือนเอาไว้ว่า จะต้องทําอย่างระมัดระวัง ไม่ใช่คิดจะทําเมื่อไรก็ได้ เพราะถ้าเกิดทําผิดก็จะส่งผลกระทบต่อคนในบ้านได้ การต่อเติมบ้านจะส่งผลให้ฮวงจุ้ยบ้านเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จุดที่เปลี่ยนแปลงไปจะมีอยู่ ๓ ลักษณะ คือ
1. ประธานบ้านเปลี่ยน
2. รูปทรงบ้านเปลี่ยน
3. แปลนบ้านเปลี่ยน
1.ประธานบ้านเปลี่ยน
เรื่องของประธานบ้านเปลี่ยน ในทางฮวงจุ้ยถือว่าสําคัญมาก การเปลี่ยนจุดของประธานบ้าน อาจทําให้ประธานเลื่อนไปอยู่ตําแหน่งล้มเหลวได้ เช่น ตําแหน่งประธานจะอยู่ตําแหน่งตรงกลางด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นตำแหน่งบารมีของบ้าน ส่วนใหญ่ตําแหน่งนี้จะนิยมวางเจ้าที่ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ถ้าหากบ้านมีการต่อเติมออกไปด้านข้าง ก็จะทําให้ตําแหน่งประธานบ้าน เลื่อนออกไปเป็นด้านข้าง ส่วนตําแหน่งด้านข้างเดิมก็เลื่อนมาอยู่ตรงกลางแทน ถ้าเดิมด้านข้างเป็นห้องส้วม ห้องส้วมก็จะย้ายมาอยู่ในตําแหน่งบารมีของบ้าน ทําให้ประธานล้มเหลวนั่นเอง
ซึ่งกรณีนี้จะไปกระทบ ถึงตําแหน่งของประตูบ้านด้วย ประตูเดิมอยู่กลาง ก็จะย้ายไปอยู่ด้านข้างแทน ซึ่งถ้าประตูตกทิศทางที่ไม่ดีก็จะมีปัญหาอีกเช่นเดียวกัน ตำแหน่งประธานในทางฮวงจุ้ยจะหมายถึงเจ้าของบ้าน ถ้าเจ้าของบ้านล้มเหลว ก็จะกระทบต่อคนในบ้านอย่างไม่ต้องสงสัย
การแก้ไขในกรณีจะต้องหาตําแหน่งประธานใหม่ ซึ่งจะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ (ซินแสฮวงจุ้ย) มาวัดหาองศาภายในบ้านเพื่อกําหนดประธานของบ้าน เรื่องนี้ไม่สามารถอธิบายเป็นตัวหนังสือได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะต้องดูกันเป็นองศา และต้องขึ้นอยู่กับลักษณะความเหมาะสมของบ้านด้วย ซึ่งบ้านแต่ละหลังจะมีลักษณะที่ไม่เหมือนกันเลย บ้านใครมีปัญหาเรื่องนี้คงต้องพึ่งซินแส
2.รูปทรงบ้านเปลี่ยน
การต่อเติมบ้าน นอกจากจะทําให้ประธานของบ้านเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ยังอาจจะทําให้รูปทรงบ้านเปลี่ยนไปด้วย เช่น เดิมบ้านเป็นรูปสี่เหลี่ยมเต็ม พอต่อเติมบ้านใหม่บ้านอาจกลายเป็นรูปตัวแอล ตัวที ไปได้ ก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่า รูปทรงบ้านที่นอกเหนือไปจากรูปสี่เหลี่ยมเต็มทั้งสี่ด้านแล้ว ในทางฮวงจุ้ยจะถือว่าเป็นรูปทรงที่ไม่ดีทั้งสิ้น เหตุผลก็เพราะ บ้านจะเกิดช่องว่างที่เว้าแหว่ง เจ้าช่องว่างนี่เอง ที่ในทางฮวงจุ้ยจะถือว่ามีผลกระทบต่อคนในบ้าน ตำราฮวงจุ้ยระบุเอาไว้ชัดเจนเกี่ยวกับตําแหน่งบุคคลในบ้าน ตําแหน่ง พ่อ แม่ ลูก คนที่เท่าไรอยู่ประจําทางทิศไหน
บ้านที่ต่อเติมแล้วเกิดช่องเว้าแหว่งตรงทิศไหน บุคคลที่ประจําทิศนั้นก็จะโดนกระทบ เช่น บ้านเดิมเป็นสี่เหลี่ยมเต็ม พอต่อเติมออกไปด้านข้าง กลายเป็นบ้านรูปตัวแอล ตำแหน่งที่เว้าแหว่งคือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นตำแหน่งพ่อ ปรากฏว่าหลังจากต่อเติมเสร็จ พ่อบ้านหลังนั้นก็ล้มป่วย อย่างนี้เป็นต้น
นอกจากพิจารณาผลกระทบที่เกิดกับบุคคลประจําทิศแล้ว อาจจะ พิจารณาเฉพาะตําแหน่งหลังบ้านก็ได้ เช่น หลังบ้านมีการต่อเติมออกไป แล้วเกิดช่องว่างที่ เว้าแหว่ง อย่างนี้ในทางฮวงจุ้ยให้บอกได้เลยว่า ประธานล้มเหลว เพราะโดยหลักพื้นฐานฮวงจุ้ย หลังบ้านจะหมายถึงประธานของบ้านด้วย จะต้องมีสภาพแน่นหนา แข็งแรง ไม่มีช่องว่าง การที่หลังบ้านเว้าแหว่ง จึงทําให้เจ้าของบ้านขาดความมั่นคงได้ง่ายนั่นเอง
3.แปลนบ้านเปลี่ยน
การต่อเติมบ้าน แน่นอนเหลือเกินว่า ผังภายในบ้านจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน เพราะบ้านจะต้องขยายมากขึ้น การขยายของบ้าน ย่อมทําให้ห้องต่างๆ ภายในบ้านเคลื่อนย้ายตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องครัว ห้องส้วม บันได ฯลฯ ตัวอย่างที่มองเห็นได้ชัด และเป็นกรณีที่เกิดขึ้นจริง เช่น เดิมตําแหน่งห้องส้วมอยู่ด้านข้างของบ้าน แต่พอต่อเติมบ้านใหม่ ปรากฏว่าตําแหน่งห้องส้วมมาอยู่ตําแหน่งกลางบ้าน หรือ บันไดเคยอยู่ด้านข้างของบ้าน ก็มาอยู่ตรงกลางบ้าน กรณีเหล่านี้จะพบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะพวกอาคารพาณิชย์ที่ซื้อห้องเพิ่ม แล้วทุบสองห้องทะลุถึงกัน จากเดิมที่ฮวงจุ้ยไม่เสีย พอต่อเติมบ้านใหม่กลับทําให้ฮวงจุ้ยเสียไป ในทันที เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ อย่ามองข้ามเพราะจะส่งผลกระทบต่อคน ในบ้านไม่รู้ตัว
การเคลื่อนย้ายของภายในบ้าน
เพิ่มเติมอีกสักนิด ในเรื่องของการเคลื่อนย้ายของภายในบ้าน บางครั้งบ้านไม่มีการต่อเติม แต่มีการเคลื่อนย้ายข้าวของภายในบ้าน ก็อาจจะส่งผลทําให้ฮวงจุ้ยบ้านเปลี่ยนไปได้ ถ้าของที่เคลื่อนย้ายวางถูกที่ถูกตําแหน่งก็ดีไป แต่ถ้าวางผิดตําแหน่งย่อมเกิดผลเสียแน่นอน สิ่งของที่อาจจะส่งผลกระทบได้ง่ายในทางฮวงจุ้ย ก็มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน เช่น ศาลเจ้าที่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เตาไฟ เตียงนอน ฯลฯ ซึ่งเป็นของที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย
ตัวอย่าง การย้ายเตาไฟ ก็เป็นจุดหนึ่งที่ต้องระวังกันพิเศษ ถ้าวางตําแหน่งเตาไฟผิด อาจเกิดผลกระทบขึ้นมากมาย แบบคาดไม่ถึงเลย เช่น เจ้าของบ้านเกิดอยากย้ายเตาไฟ เพราะไปซื้อตู้กับข้าวมาใหม่ ก็เลยย้ายเตาไฟจากด้านซ้ายมาอยู่ด้านขวา โดยเอาตู้กับข้าวไปวางตําแหน่งเตาไฟเดิม แต่การย้ายเตาไฟมาอยู่ด้านขวานั้น กลับส่งผลเสียให้กับเจ้าของบ้านอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะในเรื่องการเงินของบ้าน ก็จะไม่ให้กระทบได้อย่างไร ในเมื่อตําแหน่งของเตาไฟที่ย้ายมาใหม่ ไปวางเล็งกับซิงค์น้ำพอดี ซึ่งถือเป็นเรื่องผิด
ข้อบัญญัติในทางฮวงจุ้ย บ้านที่ชอบเลี้ยงปลา โดยเฉพาะเลี้ยงในตู้ปลาแล้วเอามาวางไว้ในบ้าน โดยปกติการวางตู้ปลา จะต้องหาตําแหน่งที่เหมาะสมถูกต้องอยู่แล้ว เพราะตู้ปลาเป็นลักษณะเคลื่อนไหว ถ้าไปวางในจุดที่ควรจะนิ่งก็ อาจจะส่งผลกระทบได้ในทางฮวงจุ้ย การเคลื่อนย้ายตู้ปลา จึงต้องหาตําแหน่งให้ถูกต้อง ไม่ใช่จะนึกย้ายไปวางตรงไหนก็ได้ เหตุผลก็เพราะถ้าตู้ปลาเกิดไปวางในตําแหน่ง 5 ภูต ซึ่งเป็นตําแหน่งห้ามเคลื่อนไหว ก็จะก่อให้เกิดปัญหาขึ้นภายในบ้านได้
บางคนที่เบื่อง่าย มักจะชอบจัดห้องนอนให้แปลกใหม่อยู่เสมอ การย้ายเตียงก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงห้องนอน เพราะหัวใจของห้องนอนก็คือ เตียงนอนนั่นเอง การเคลื่อนย้ายเตียงนอน ในทางฮวงจุ้ยก็ถือว่าสําคัญเช่นเดียวกัน เพราะ ถ้าย้ายไม่ถูกก็จะส่งผลกระทบต่อผู้นอนได้ บางคนหัวเตียงเป็นหน้าต่าง เกิดไม่ชอบใจหันเตียงไปพิงกําแพงห้องอีกด้านหนึ่ง แต่ลืมนึกไปว่าหัวนอนที่พิงกําแพงนั้นเป็นห้องน้ําอย่างนี้ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าการเคลื่อนย้ายข้าวของภายในบ้าน อาจจะส่งผลกระทบได้ โดยที่เราเองก็คาดไม่ถึง เพราะฉะนั้นการจะย้ายของแต่ละครั้ง ลองพิจารณาหลักเกณฑ์ในทาง วงจุ้ยประกอบเข้าไปด้วยว่าตําแหน่งที่ จะย้ายไปใหม่นั้นจะมีผลเสียหรือไม่