บ้านกึ่งที่ทํางาน หรือที่เรียกว่าโฮมออฟฟิศนั้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่นํามาใช้เป็นที่ทํางาน หรือจากที่ทํางานมาทําเป็นบ้าน ทั้งสองแบบความหมายก็จะเหมือนกัน คือ ใช้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทํางาน
ลักษณะบ้านกึ่งที่ทํางานนี้ จะพบบ่อยตามเมืองใหญ่ๆ เพราะเป็นบ้านที่ใช้ประโยชน์คุ้มค่าที่สุด เป็นทั้งที่นอน ที่ทํางาน แถมยังประหยัดเวลาในเรื่องของการเดินทางได้อีกด้วย แล้วหลายคนก็คงมองเห็นเช่นเดียวกันว่า บ้านประเภทโฮมออฟฟิศ มีประโยชน์มากมายจริงๆ
แต่ในทางฮวงจุ้ยกลับไม่ได้มองเช่นนั้น บ้านแบบนี้ถือว่าผิดลักษณะของฮวงจุ้ยเสียด้วยซ้ำ เพราะโดยปกติที่ทํางานกับที่บ้านจะต้องอยู่กันคนละที่ เพราะสภาพของการใช้งานจะไม่เหมือนกัน บ้านเป็นสถานที่สําหรับพักผ่อนนอนหลับ ต้องการความนิ่งสงบเพื่อผ่อนคลาย จึงมีความเป็นหยินค่อนข้างมาก ส่วนที่ทํางานจะเต็มไปด้วยหยาง ที่มีความวุ่นวาย คนเดินเข้าเดินออก เสียงกริ่งโทรศัพท์ ทั้งสองสถานที่ จึงมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เมื่อนํามาเป็นสถานที่เดียวกัน จึงมีความขัดแย้งกันเอง และนี่เป็นประเด็นที่ฮวงจุ้ยมองว่าไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าหลายคนจะนึกเถียงอยู่ในใจว่า ตอนเลิกงานความวุ่นวายก็ไม่มีแล้ว ก็น่าจะกลับสู่สภาพของความนิ่งสงบได้ ไม่ไปรบกวนในเรื่องของการพักผ่อนนอนหลับ ซึ่งก็จริง แต่อย่าลืมว่า ถึงจะเลิกงานแล้ว บ้านก็ไม่ได้เปลี่ยนตามไปด้วย สภาพของที่ทํางานยังคงอยู่ เวลาเดินเข้าออกบ้าน ก็ต้องผ่านห้องที่จัดไว้สําหรับทํางานทุกครั้ง บรรยากาศแบบนี้ จะทําให้คนในบ้านรู้สึกว่าเป็นทางการ ไม่ผ่อนคลาย เดินผ่านทีไรก็ต้องนึกถึงที่ทํางานทุกที บางคนทํางานดึกตื่นจนไม่รู้ว่าเป็นเวลาทํางานหรือเวลาพักผ่อน แยกกันไม่ออก นี่คือข้อเสียของบ้านลักษณะนี้
มีคำถามว่า ถ้าให้บรรยากาศไม่เหมือนที่ทํางาน จะพอช่วยได้ไหม เช่น แบบบ้านเป็นอย่างไรก็ให้เป็นอย่างนั้น ไม่มีการวางโต๊ะทํางานเต็มห้องไปหมด แต่จะจัดแบบโต๊ะทํางานในบ้านที่วางตามมุมห้องเป็นจุดๆ เวลาเดินเข้าบ้านจะให้ความรู้สึกเหมือนบ้านมากกว่าที่ทํางาน มีโต๊ะรับแขก มีทีวี วิทยุ ห้องครัว ห้องอาหาร ถ้าจัดแบบนั้น ข้อดีคือ รักษาสภาพของความเป็นบ้านเอาไว้ ให้ความรู้สึกของการพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ข้อเสียการสร้างบรรยากาศแบบบ้านในที่ทํางาน จะทําลายสภาพหยางที่ควรจะมีให้หมดไป ทําให้คนทํางานขาดความแอคทีฟ หรือกระตือรือร้นในการทํางาน มีความรู้สึกสบายเกินไปเหมือนอยู่บ้าน
การจับปลาสองมือแบบนี้ มักจะไม่ได้ดีสักอย่าง ทั้งๆ ที่ดูเหมือนว่า น่าจะได้ประโยชน์ทั้งสองอย่าง แต่กลับเป็นประเภทลูกผสมขาดๆ เกินๆ ไม่ลงตัว แต่บางคนก็ชอบที่จะอยู่บ้านแบบนี้ ก็ไม่ว่ากัน ความจริงการอยู่บ้านแบบกึ่งที่ทํางานนั้น ถึงแม้จะผิดหลักฮวงจุ้ยไปบ้าง ก็ไม่ได้เป็นผลเสียร้ายแรงอะไร ถ้าเรารู้จักปรับสภาพของตัวเราให้เข้ากับสภาพแวดล้อมแบบนี้ โดยเฉพาะนําเรื่องของการแบ่งพื้นที่ภายในบ้านมาใช้ จะช่วยได้มาก หลักเกณฑ์ในเรื่องนี้ก็ไม่ยากอะไร เพียงแต่แยกพื้นที่ของบ้าน และที่ทํางานออกมาให้ชัดเจน แบบไม่ยุ่งเกี่ยวต่อกัน โดยแบ่งออกเป็น 3 ข้อดังนี้
1. แยกประตูเข้าออก อย่าใช้ประตูร่วมกัน
ถ้าชั้นล่างทําไว้สําหรับที่ทํางาน ชั้นบนเป็นบ้าน ก็ควรทําประตูขึ้นสู่ชั้นบนต่างหาก ใช้เฉพาะคนในบ้าน ไม่ต้องเดินผ่านชั้นล่างเพื่อจะขึ้นไปชั้นบน
2. ไม่ควรทำที่พักไว้ในโรงงาน
ถ้ามีพื้นที่มีมาก เช่น เป็นโรงงาน ก็ไม่ควรทําที่พักไว้ในโรงงาน อาจสร้างบ้านพักขึ้นมาใหม่อีกหลัง แต่อยู่ในเขตพื้นที่เดียวกัน อย่างนี้จะถือว่าดีที่สุด เพราะทั้งสองส่วนจะแยกจากกัน สามารถสร้างบรรยากาศของความเป็นบ้านได้อย่างเต็มที่ ถึงแม้จะอยู่ในรั้วเดียวกันก็ตาม
3.ตกแต่งส่วนทำงานให้ดูเป็นบ้านมากที่สุด
กรณีที่บ้านมีพื้นที่จํากัดและไม่สามารถแยกประตูได้ การปรับสภาพภายในบ้าน อาจใช้วิธีตกแต่งในส่วนของที่พัก ให้มีบรรยากาศเป็นบ้านให้มากที่สุด เช่น ชั้นล่างเป็นที่ทํางาน ชั้นบนเป็นส่วนของบ้าน เมื่อเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน อาจทําเป็นประตูสําหรับเข้าไปในส่วนของที่พัก มีการตกแต่งด้วยต้นไม้ด้านหน้าประตูเพื่อสร้างความแตกต่างที่ชัดเจน
