นอกเหนือไปจากการทำบ้านให้ดูเรียบร้อย สะอาด และสวยงามน่าอยู่เพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีให้แก่คนในบ้านแล้ว การเสริมสร้างมงคลโชคลาภให้คนในบ้าน ก็นับว่าสำคัญไม่น้อยด้วย การอาศัยหลักฮวงจุ้ยเข้าช่วย ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายดายแต่ได้ผล แถมยังไม่กระทบกระเทือนการดำเนินชีวิตความเป็นอยู่และโครงสร้างของบ้าน มีวิธีการปฏิบัติอย่างไรต้องไปศึกษากัน
1.บ้านที่มีมงคลต้องเป็นบ้านที่สะอาด
บ้านที่จะมีมงคลเสริมส่งแก่ผู้อยู่ได้นั้นจะต้องเป็นบ้านที่ดูแล้วสะอาดตาก็จะทำให้คนในบ้านมีความสุขใจเมื่ออยู่สุขใจที่ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องความสกปรกลงรังของบ้านหากมีแขกเหรื่อมาก็ไม่ต้องคอยหลบซ่อนหรือปิดหน้าอะไรบ้างตนเองไม่เห็นบ้านที่ดูสวยสะอาดก็ย่อมจะเอ่ยปากชมเป็นธรรมดาดังนั้นเมื่อบ้านเป็นสิ่งที่คุณต้องพบคือวันละหลายชั่วโมงคุณก็ควรดูแลบ้านด้วยการทำสิ่งต่างๆดังต่อไปนี้
- หาเวลาทำความสะอาดบ้านสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเป็นอย่างน้อยเพื่อสุขอนามัย
- จัดเก็บข้าวของให้มีระเบียบตรงตามตำแหน่งที่ควรจะเป็น เวลาหยิบใช้จะได้สะดวกเป็นระเบียบและไม่เกิดอันตรายหรืออาจมีใครลื่นหกล้มได้ หากบ้านคุณมีเด็กเล็กๆหรือผู้สูงอายุอยู่ด้วย
- อะไรที่ไม่ใช้แล้วและยังเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ได้อีกสำหรับผู้อื่น ก็ควรเปลี่ยนมือไปให้คนอื่นที่เขาต้องการ โดยการบริจาคต่อ เช่น หนังสือ เสื้อผ้า ของเล่น นอกจากทำให้บ้านคุณดูสวยงามขึ้นแล้ว ยังเป็นการเสริมบุญบารมีให้กับตัวเองและครอบครัวได้อีกทางด้วย
- อะไรใช้การไม่ได้จริงๆก็ไม่ต้องมัวแต่เสียดายให้ทิ้งไปเลย เพราะถือว่าเป็นขยะ เก็บไว้มีแต่รกบ้านและทำให้บ้านสกปรกเปล่าๆ
- นอกเหนือไปจากบริเวณในบ้านแล้ว เรื่องของนอกบ้านก็ไม่แพ้กัน เพราะบุคคลภายนอกเขาจะมองมายังตัวบ้านเราและเห็นพื้นที่ส่วนนอกนี้ก่อน เช่น เห็นหน้าบ้าน หลังบ้าน ดังนั้น การดูแลส่วนนี้ก็ต้องทำไปพร้อมๆกัน กับการดูแลภายในบ้าน หากมีข้าวของอะไรเกะกะรกมาก ๆ ก็ควรกำจัดหรือปรับปรุงเสีย เช่น ทิ้งกระป๋องหรือเครื่องดื่มเก่าๆที่ไม่ได้ใช้แล้ว ตกแต่งสวนของคุณให้สวยงามให้มีความเป็นระเบียบ ตัดแต่งกิ่งไม้ใบไม้แห้งทิ้งไปบ้างเพื่อไม่ให้เป็นเชื้อไฟและรกตา
2.ดูแลระมัดระวังส่วนพื้นบริเวณชื้นแฉะเป็นพิเศษ
การดูแลส่วนต่างๆของบ้านให้ไม่มีความชื้นแฉะเป็นสิ่งสำคัญ เพราะบ้านที่ดีควรมีความแห้งอยู่เสมอส่วนของบ้านบางส่วนชื้นแฉะก็จะทำให้คนในบ้านได้รับผลกระทบตามไปด้วย เช่น น้ำกัดเท้า ไม่สบายตัวเพราะมีแต่ความชื้นรายรอบ เกิดโรคที่เกี่ยวกับความชื้นอย่างเชื้อราในร่มผ้า กลาก เกลื้อน หรือหิด เพราะฉะนั้นขอให้คุณใส่ใจในส่วนของห้องบางห้องที่เกี่ยวข้องกับน้ำ เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องซักล้าง หรือแม้แต่ระเบียงตากผ้าก็ตาม ระวังอย่าให้เกิดความชื้นแฉะในบริเวณเหล่านี้ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดความหงุดหงิดน่ารำคาญ เกิดโรคต่างๆแล้ว หากพลั้งเผลอก็อาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุให้ลื่นหกล้มได้ ยิ่งถ้าบ้านคุณมีลูกเล็กๆหรือผู้สูงอายุ ก็ยิ่งต้องใส่ใจจุดนี้ให้มากเข้าไว้
3.อย่าปล่อยให้บ้านทรุดโทรม ซ่อมแซมได้ให้รีบทำ
หากเป็นบ้านที่อยู่มานานหลายรุ่นหลายสิบปี ก็อาจมีการชำรุดทรุดโทรมบ้างเป็นธรรมดา ดังนั้นการจะทำให้บ้านกลับมาสวยงามแข็งแรงเช่นเดิมได้คุณควรแก้ไขปรับปรุงเสีย อย่างน้อยๆ บ้านนั้นก็คือหน้าตาของคุณ คนภายนอกเขาจะมองคนในบ้านเป็นเช่นไรก็จากการมองบ้านที่คุณอยู่อาศัยนั่นเอง เรียกว่าหากมีส่วนไหนที่สามารถซ่อมแซมแก้ไขได้ก็ให้รีบจัดการเสียอย่าได้รีรอเพราะคิดว่าไม่สำคัญ แค่เรื่องของความสวยงามเล็กๆน้อยๆเท่านั้น เพราะอาจเป็นเรื่องของความปลอดภัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อาจเกิดปัญหายุ่งยากตามมาได้ได้ถ้าไม่รีบแก้ไข เช่น ประตูบ้าน หน้าต่าง รั้วบ้าน ที่ชำรุด หากนิ่งนอนใจไม่แก้ไขอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ ส่วนต่างๆเหล่านี้อาจหล่นลงมาทำให้คนในบ้านบาดเจ็บ หรือไม่เช่นนั้นส่วนเหล่านี้อาจเป็นช่องทางให้โจรเข้ามาขโมยของหรือทำร้ายผู้คนในบ้านได้สะดวกขึ้น เพราะความชำรุดส่วนนี้เกิดความชำรุดจนไม่สามารถปกป้องบ้านได้อีกแล้ว
นอกจากนี้ ในบางส่วนที่อาจมีการชำรุดได้บ่อยๆและก่อให้เกิดอันตรายและอุบัติเหตุจากคนในบ้าน ก็ยังมีอีกหลายจุด เช่น บันใดบ้านที่เก่า หรือมีปลวกกิน หลังคาที่ร่วงโรยจนกระเบื้องมุงหลังคาแทบจะลงร่อนลงมา หรือในเวลาที่ฝนตกก็จะทำให้บ้านนี้มีน้ำท่วมขังชื้นแฉะ เกิดอันตรายจากไฟช็อตได้ง่าย ดังนั้นคุณควรสละเวลาสักนิดตรวจตราบ้านให้รอบคอบแล้วแก้ไขทันทีหากทำได้
4.ก่อนต่อเติมบ้านคิดให้ถี่ถ้วน
หากต้องการต่อเติมบ้านให้มีความกว้างขวางออกไป ด้วยเหตุผลคือความสวยงาม ดูแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะนั่นคือบ้านของเรา ความต้องการของเราเอง แต่ถ้าพูดกันถึงเรื่องหลักการแล้วการทำเช่นนี้ไม่เป็นมงคลเลย เพราะเหมือนเป็นการต่อเติมในส่วนที่ไม่จำเป็น ทำให้บ้านนี้ขาดความสมดุลเข้าไปใหญ่ ถ้าหากคิดที่จะต่อเติมบ้านเมื่อไรคุณต้องพึ่งพาสถาปนิกที่มีความชำนาญร่วมด้วย กับซินแสฮวงจุ้ยที่มีความรู้ จึงจะเหมาะสมที่สุด เพราะบ้านนั้นกว่าจะสร้างไม่ง่ายและหมายถึงเงินที่จะต้องเสียไป หากคุณต่อเติมไปแล้วแต่ไม่ถูกหลักสถาปนิกและผิดหลักฮวงจุ้ย ความหายนะย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอนและอาจร้ายแรงกว่าที่คุณคาดถึง
5.ลดการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าลงเพื่อรับพลังงาน “ชี่”
ตามหลักของฮวงจุ้ยกล่าวว่า บ้านที่ดีจะต้องไม่มีอุปกรณ์ประเภทไฟฟ้าที่มากจนเกินไป เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหลายจะเป็นอุปกรณ์ต่อการไหลเวียนของชี่ ทำให้ชี่ซึ่งก็คือพลังงานที่ดีที่จะเสริมสร้างมงคลแก่คุณไหลเวียนเข้าสู่บ้านไม่สะดวก เมื่อเป็นเช่นนี้ก็หมายความว่าทั้งบ้านและคุณจะได้รับชี่ที่น้อยอย่างไม่ควรจะเป็น
ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือ การรักษาการไหลเวียนของชี่ให้คงที่ด้วยการลดการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าให้น้อยลง เช่น พัดลม เครื่องปรับอากาศ โทรศัพท์ วิทยุ เครื่องเสียง คอมพิวเตอร์ dvd vcd วีดีโอ และอื่นๆเป็นต้น การลดการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้านั้นยังเป็นการช่วยชาติและช่วยตัวเองประหยัดไฟได้ด้วย อีกทั้งยังเป็นการพักเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ไม่ให้ทำงานหนัก ดังนั้นขอให้คุณสำรวจดูว่ามีอุปกรณ์เกี่ยวกับไฟฟ้าอะไรที่คุณใช้เกินความจำเป็น เช่น การมีโทรทัศน์ 3-4 เครื่องในห้องนอนของแต่ละคน คุณก็อาจเปลี่ยนมาเป็นการดูโทรทัศน์ 1-2 เครื่องแทนโดยการรวมกันอยู่ในห้องรับแขกก็น่าจะเพียงพอ ส่วนอุปกรณ์ทำความเย็นอย่างพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ ก็ให้สำรวจทุกครั้งว่าปิดหรือไม่เมื่อต้องออกจากบ้านกันหมด และทั้งหมดนี้ก็จะทำให้คุณได้รับชี่ได้สะดวกและประหยัดค่าไฟฟ้าและได้รับความปลอดภัยจากการเป็นคนรอบคอบด้วย
ขอแนะนำในเรื่องของการลดการใช้อุปกรณ์ทำความเย็น คือคุณสามารถปิดการใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นบางช่วงได้โดยการหันมารับอากาศเย็นสบายและบริสุทธิ์แทน ให้คุณเปิดประตูหรือหน้าต่างตามสมควรในช่วงเช้าและเย็น หรือกลางคืนอากาศร้อนอบอ้าวก็เลือกใช้พัดลมแทนเครื่องปรับอากาศเพราะเวลามืดอากาศไม่ร้อนเท่ากลางวันอยู่แล้ว
6.ทำให้บ้านคุณมีกลิ่นหอมเพิ่มเสน่ห์ให้กับบ้าน
สมัยนี้เขามีการนำเครื่องหอมหรือวัสดุที่มีกลิ่นหอมเข้ามาใช้ในบ้านตามห้องต่างๆ เพื่อเพิ่มความน่าอยู่และสบายอกสบายใจให้กับคนในบ้าน เรียกว่าเป็นกลิ่นหอมแบบสุคนธะบำบัดคือ เป็นกลิ่นที่สามารถบำบัดร่างกายและจิตใจให้เบาสบายคลายเครียดได้นั่นเอง ซึ่งตามตำราฮวงจุ้ยถือว่าปริมาณสำคัญกับจิตใจร่างกายและมงคลของคนในบ้านมาก
หากในบ้านมีกลิ่นหอมอบอวลก็จะช่วยทำให้คนในบ้านอบอุ่นอยู่กันอย่างมีความสุข เสมือนได้รับพลังงานจากกลิ่นหอมเหล่านี้ คุณอาจเลือกสรรกลิ่นหอมที่ทุกคนชื่นชอบมาเป็นกลิ่นเฉพาะประจำบ้านได้จากดอกไม้อย่าง มะลิ จำปา จำปี ดอกพุด กระดังงา หรือจะมาจากกลิ่นน้ำหอมระเหยที่คุณชื่นชอบก็ได้อย่างโรสแมรี่ เปเปอร์ เมนทอล เป็นต้น
7.ตกแต่งบ้านโดยอิงตามหลักธรรมชาติให้มากที่สุด
ในเรื่องของรสนิยมการตกแต่งบ้าน ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่และศิริมงคลของคนในบ้านเช่นกัน สมัยนี้คนส่วนใหญ่นิยมการตกแต่งบ้านแนวฝรั่งอย่าง ยุโรป อังกฤษ หรือไม่ก็เป็นในแนวประเทศใกล้เคียงอย่าง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น จีน นั่นก็เป็นเรื่องของรสนิยมใครรสนิยมมันที่ไม่มีถูกหรือผิด แต่หากคุณแต่งบ้านโดยไม่มีการเอาหลักฮวงจุ้ยมาร่วมเลยก็อาจทำให้การตกแต่งที่ดูสวยงามนั้นหมดถ้าไปได้ เพราะเป็นเหตุผลทำให้บ้านไม่มีความเป็นมงคลนั่นเอง
ตามตำราฮวงจุ้ยนั้น แนะนำให้ตกแต่งบ้านในแนวที่อิงธรรมชาติให้มากที่สุด เพื่อให้ธรรมชาติช่วยรักษาสมดุลในบ้าน ของตกแต่งหรือเครื่องใช้จากธรรมชาติมองแล้วก็สวยงามสบายตาไม่ดูฉูดฉาด เช่น ของตกแต่งในสมัยนี้ ได้ถูกออกแบบมาให้มีความสวยงามและนำมาจัดวางได้ง่ายๆเลย เพราะฉะนั้นการเลือกใช้วัสดุตกแต่งที่ทำมาจากธรรมชาติ จึงเหมาะสมที่สุด เช่น ไม้ไผ่ ไม้สัก กก ไม้มะขาม ไม้มะม่วง ดอกไม้แห้ง รากไม้ เชือกมะนิลา ปอกระเจา ภาชนะดินเผา ลูกปัดไม้ ลูกปัดดินเผา เป็นต้น
8.สร้างความเคลื่อนไหวให้กับบ้านบ้าง
บ้านที่อยู่แล้วดีมีมงคลนั้น จะต้องเป็นบ้านที่มีความเคลื่อนไหวคือ ไม่ใช่บ้านที่เงียบเหงาไร้การติดต่อจากโลกภายนอกเสียเลย แล้วก็ไม่ใช่บ้านที่วันๆมีแต่คนและเวียนมาทักทายและมีกิจกรรมจนคนในบ้านไม่เป็นอันทำการทำงานของตนเอง บ้านที่มีความเคลื่อนไหวที่พอเหมาะสมนั้นก็คือบ้านที่คนในบ้านอยู่อย่างมีความสุข ให้ทุกคนหรือญาติพี่น้องแวะเวียนเข้ามาทักทายกันบ้างเป็นระยะ
ดังนั้น หากบ้านของคุณเป็นบ้านที่เงียบเหงาไร้การเคลื่อนไหว คุณก็ควรสร้างความเคลื่อนไหวให้แก่บ้านโดยมีข้อแนะนำดังนี้
- เปิดเพลงเบาเบาที่มีจังหวะช้าๆ นุ่มๆ ในบ้านเป็นประจำ จะทำให้บ้านของคุณร่มรื่นเกิดความเย็นสบาย คนในบ้านที่อยู่อาศัยก็สบายและคลายเครียดจากเพลงประเภทนี้ได้ ดังนั้นการเลือกเพลงเบาๆฟังสบายที่คุณและทุกคนในบ้านชื่นชอบร่วมกัน จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถ้าเลือกเพลงประเภทบรรเลงก็ย่อมได้หรือหากคุณและคนในครอบครัวมีฝีมือในการเล่นดนตรีก็อนุญาตการเล่นดนตรีในจังหวะเบาๆสบายก็ได้เช่นกัน สิ่งเหล่านี้เพื่อการสานสัมพันธ์ในหมู่ญาติพี่น้องอีกด้วย
- การจัดงานสังสรรค์ในหมู่ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูง ก็นับว่าเป็นการทำให้บ้านเคลื่อนไหวได้ดีเช่นกัน แต่ต้องระวังอย่าให้มากจนเกินไป เดือนละ 1-2 ครั้งก็ถือว่าเพียงพอแล้ว เพราะหากมากเกินไปก็จะทำให้คนในบ้านเดือดร้อนได้ เพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการสังสรรค์ที่สนุกสนานจนการงานต้องได้รับผลกระทบไปด้วย นอกจากนี้เสียงก็อาจจะไปรบกวนเพื่อนบ้านจนทำให้ต้องทะเลาะกันก็อาจเป็นได้
- ให้คุณลองสังเกตว่า หากบ้านใดมีเด็กๆอยู่ด้วยบ้านนั้นก็มักจะมีแต่ความสุขสดใส เพราะเป็นบ้านที่มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็กที่ยังอยู่ในวัยบริสุทธิ์ คนที่อยู่ในบ้านก็ย่อมได้รับพลังที่บริสุทธิ์จากเด็กไปด้วย ทำให้บ้านนั้นเป็นบ้านที่อบอุ่นมีความสุข แต่หากบ้านใดที่ไม่มีเด็กๆก็มักจะเป็นบ้านที่แห้งแล้ง ขาดแคลนเสียงหัวเราะ คนในบ้านไม่ค่อยจะมีการหันหน้าเข้าหากันหรือทำกิจกรรมดีๆกันสักเท่าไร เรียกว่าอยู่กันแบบตัวใครตัวมันเลยทีเดียว ดังนั้นการมีเด็กๆสักคนสองคนอยู่ในบ้าน ย่อมเป็นการดีกว่า หรือหากไม่มีเด็กๆ จะมีสัตว์เลี้ยงน่ารักๆสักตัว ก็สามารถทำให้เป็นบ้านที่สมบูรณ์ขึ้นได้ อยู่ที่ตัวของคนในบ้านจะชื่นชอบกับสิ่งนี้และช่วยสร้างสรรค์ความรักความอบอุ่นให้เกิดจากบ้านด้วยหรือไม่
9.เก็บขอมีคมไว้ในที่ที่ปลอดภัยและเหมาะสม
บ้านแทบจะถูกบ้านนั้น ย่อมต้องมีส่วนของครัว หรือไม่เช่นนั้นก็มีอุปกรณ์ในการทำครัวอยู่ด้วยกันแทบทุกบ้าน เพราะต้องทำอาหารกินทุกวัน ดังนั้น จึงขาดส่วนนี้ไปไม่ได้ โดยเฉพาะอุปกรณ์ทำครัวอย่างง่าย รวมถึงการอุปกรณ์การรับประทานอาหาร เช่น ส้อม ตะเกียบ ที่มีความแหลมคมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ คุณต้องระมัดระวังในการเก็บรักษาให้มากที่สุด เพราะตามหลักฮวงจุ้ยถือว่าอุปกรณ์เหล่านี้ให้เป็นของที่ไม่เป็นมงคล แต่มีความจำเป็นต่อชีวิตจึงอนุโลมให้อยู่ให้มีอยู่ในบ้านได้ หากไม่เก็บรักษาให้ถูกที่ก็จะทำให้เกิดความเสียหายได้มากเช่นกัน
- หากวางระเกะระกะตามพื้น ไม่อยู่ในส่วนของครัวใครเดินไปเดินมาไม่สังเกตอาจเหยียบจนเกิดอุบัติเหตุได้
- หากบ้านใดมีเด็กที่ยังไม่รู้ประสีประสา การวางของมีคมและเป็นอันตรายด้วยความที่เด็ก ๆ ไม่รู้จึงได้นำไปเล่น จะทำให้ได้รับบาดเจ็บถึงแก่ชีวิตได้
- เมื่อมีเหตุบาดหมางไม่เข้าใจกันในครอบครัว การมีของมีคมวางไว้ตามที่ต่างๆที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ผู้ที่ทะเลาะเบาะแว้งกันไม่ว่าจะเป็น สามี-ภรรยา พี่-น้อง แล้วเกิดบันดาลโทสะ คว้าของมีคมใกล้ตัวขึ้นมาทำร้ายกันก็อาจเป็นได้ ทั้งที่ความจริงไม่ได้ตั้งใจหรือไตร่ตรองมาก่อนเลย
10.ควรกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นประจำทุกวัน
นอกเหนือจากการมีบ้านที่ดีคือถูกต้องครบตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว คนในครอบครัวรักกัน ประพฤติตนเป็นคนดีมีศีลธรรมแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการเสริมมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัวด้วยการพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย เพราะถือว่าสุดท้ายแล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็คือความสูงสุดแห่งชีวิตที่เราต้องเคารพบูชา เพื่อที่จะได้ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หนุนนำชีวิตและความเจริญควบคู่ไปกับการใช้หลักการของฮวงจุ้ยด้วย
ขอแนะนำให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่คนในบ้าน
- ควรกราบไหว้บูชาพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพเป็นประจำ หากสามารถทำได้การกราบไหว้ทุกวันย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
- การถือศีล 5 ให้ได้ครบทุกข้อ จะทำให้ชีวิตเจริญ ซึ่งศีล 5 ที่ว่านั้นก็คือ การไม่เสพสุราหรือของมึนเมา ไม่พูดจาโป้ปดมดเท็จ ไม่ลักขโมยของผู้อื่น ไม่รังแกสัตว์หรือฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และการไม่ผิดลูกเมียของผู้อื่น
- หมั่นทำบุญกุศลต่างๆ เพื่อเป็นการเสริมบารมีแก่คนในครอบครัวคุณ อาจทำได้ดังต่อไปนี้ เช่น ถวายสังฆทาน กรวดน้ำบริจาคสิ่งของจากผู้ด้อยโอกาส บริจาคโลหิต ทำงานเพื่อสาธารณะประโยชน์
- การทำบุญบ้านเป็นประจำปีละครั้ง ก็สามารถเสริมมงคลโชคลาภได้ยังถือเป็นการไล่เสนียดจัญไรให้ออกจากบ้านได้ด้วยเช่นกัน
