ห้องรับแขก เป็นห้องที่ต้องจัดให้สะอาดสะอ้านดูสวยงาม เพราะเป็นห้องที่มีแขกมาเยี่ยมเยือนเสมอและยังเป็นที่รวมตัวกันของสมาชิกในครอบครัว บ้างก็มานั่งเล่นนั่งคุยทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันซึ่งสมควรจัดให้ห้องนี้เป็นห้องที่มีฮวงจุ้ยที่ดี
1.นาฬิกาในห้องรับแขก
นาฬิกาเป็นได้ทั้งอุปกรณ์บอกเวลาและเครื่องประดับที่คุณมักจัดให้มีในห้องรับแขก แต่การวางนาฬิกานั้นจำเป็นต้องวางให้ถูกที่ถูกทิศ มิฉะนั้นจะทำให้ฮวงจุ้ยเสียได้ การจัดวางนาฬิกาในห้องรับแขกที่ถูกต้องก็คือให้คุณวางในพื้นที่ที่ไม่ได้หันออกจากประตูบ้าน เพราะศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยถือว่านาฬิกาเป็นพลังที่เคลื่อนไหวตลอดเวลา ดังนั้นจึงมีความหมายเป็นนัยว่าเรามีเวลาเหลืออยู่น้อยลงทุกที จึงไม่ควรหันออกประตูบ้านซึ่งปะทะกับพลังงานอื่นๆที่พุ่งเข้ามา คุณจึงอาจเลือกเบนตัวนาฬิกาไปยังทิศอื่นสักนิดก็ได้
2.ขนาดห้องรับแขก
ผนังห้องรับแขก เป็นอีกจุดที่คุณควรให้ความสนใจมากสักหน่อย บางครั้งคุณก็อยากทำให้ผนังส่วนนี้โดดเด่นด้วยการทาสีฉูดฉาดติดวอลเปเปอร์ให้ดูแปลกตา แต่ตามหลักฮวงจุ้ยนั้น ผนังห้องรับแขกควรเรียบที่สุด เพื่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองกับคนในบ้าน มีเงินทองไหลมาเทมา เพราะศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยถือว่าลวดลายที่ตัดกันไปมาและสีสันที่บาดตาโดยเฉพาะในห้องรับแขก จะเป็นตัวสกัดกั้นไม่ให้เกิดความสุขความเจริญ
3.ห้องรับแขกใต้ห้องน้ำ
บ้านทาวน์เฮ้าส์หรือบ้านหลายชั้น บางครั้งก็หลีกเลี่ยงที่ห้องน้ำจะอยู่เหนือห้องรับแขกไม่ได้ ซึ่งลักษณะนี้ถือว่าผิดหลักฮวงจุ้ยอย่างมาก เพราะเชื่อว่าจะทำให้คนในบ้านอยู่กันอย่างไร้สุขและมีเรื่องทะเลาะกันอยู่เสมอวิธีแก้ไขที่ง่ายที่สุดก็คือ
- นำกระถางต้นไม้มาประดับไว้ที่ห้องรับแขกบ้าง เพื่อให้กระถางต้นไม้ดึงดูดพลังไม่ดีของจุดห้องน้ำที่ส่งตรงมาสู่ห้องรับแขก
- หาระฆังลมหรือคริสตัลมาประดับไว้ที่หน้าต่างห้องรับแขก เพื่อช่วยปัดเป่าและแผ่กระจายความชั่วร้ายให้บรรเทาเบาบางลง เพราะศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยถือว่าบริเวณห้องน้ำเป็นแหล่งที่รวบรวมพลังงานไม่ดีเอาไว้
4.หน้าต่างของห้องรับแขก
หน้าต่าง จัดเป็นทางระบายอากาศถ่ายเทลมให้ออกไปจากตัวบ้าน ดังนั้นหน้าต่างในบ้านจึงต้องเปิดไปแล้วไม่มีสิ่งใดมาขัดขวางรบกวน โดยเฉพาะห้องรับแขกควรจะมีหน้าต่างที่จำนวนเหมาะสมกับขนาดของห้อง และเปิดแล้วไม่ถูกบดบัง มีลมถ่ายเทได้สะดวก ซึ่งจะช่วยให้คนในบ้านเจริญรุ่งเรืองและยังควรเปิดไฟแล้วมีแสงสว่างลอดเข้ามาได้ดี ทำให้ตัวห้องสว่างไสว ความสว่างจะช่วยให้ชีวิตของคนในบ้านสว่างสดใสตามไปด้วย แต่ถ้าห้องนั้นค่อนข้างมึดทึบคุณก็ควรแก้ไขด้วยการติดไฟให้มากขึ้น
ส่วนการแก้ไขกรณีที่เปิดหน้าต่างไปแล้วมีเสียงรบกวนกีบขาคุณก็ควรแก้ไขด้วยวิธีง่ายๆได้ดังนี้
- ถ้ามีกระถางต้นไม้ขึ้นมาขวางทางลง คุณก็อาจเปลี่ยนตำแหน่งใหม่อย่าให้บดบังทิศทางลมแต่ถ้าเป็นต้นไม้ซึ่งอยู่ไกลออกไปมาก ไม่ถือว่าขัดขวาง แต่หากเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านบดบัง ก็สามารถตัดออกได้บ้างเพื่อให้ดูสวยงามถูกหลักฮวงจุ้ยและไม่ทำให้ทัศนียภาพเสีย
- หากเปิดหน้าต่างห้องรับแขกไปแล้ว เจอกันกับบ้านตรงข้ามแบบห่างกันเพียงไม่กี่ฟุต ซึ่งอาจเป็นไปได้หากบ้านที่อยู่เป็นทาวเฮ้าส์ ดังนั้นหลังบ้านจึงมักห่างกันเพียงเล็กน้อย คุณก็อาจหาโมบายสวยๆมาแขวนริมหน้าต่างได้ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนและทำให้พลังในห้องรับแขกเกิดการเคลื่อนไหวถ่ายเทได้สะดวกยิ่งขึ้น
5.ตั้งป้ายวิญญาณบรรพบุรุษ
ถ้าเป็นครอบครัวคนจีน ก็มักจะมีการกราบไหว้บูชาบรรพบุรุษเพราะแสดงได้ถึงความเคารพและกตัญญูที่สืบทอดต่อๆกันมา ดูเหมือนว่าจะดีก็จริงอยู่ แต่หากมีการนำป้ายวิญญาณของบรรพบุรุษมากราบไหว้บูชาภายในห้องรับแขกก็ถือว่าเป็นการไม่สมควร จะทำให้เกิดความเป็นอัปมงคลแก่ผู้ที่อยู่อาศัยในบ้าน เพราะบรรพบุรุษนั้นก็คือคนที่ตายไปแล้ว ย่อมจะมีพลังแห่งความตายวนเวียนอยู่ เมื่อนำเข้ามาในห้องรับแขกที่เป็นห้องของคนเป็นนั้น มันก็จะทำให้ได้รับพลังไม่ดีเหล่านั้นไปด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นป้ายวิญญาณบรรพบุรุษในระยะใกล้ ๆ แต่ก็คงรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นรูปคนตายอยู่ในห้อง อาจเกิดความกลัวเกรง ความสลดใจ ความไม่สบายใจขึ้นมาได้ ทำให้บรรยากาศของห้องรับแขกที่ควรสบายและเป็นกันเองต้องรู้สึกหดหู่และตึงเครียด ดังนั้นคุณควรแก้ไขโดยการนำป้ายวิญญาณบรรพบุรุษไปไว้ที่อื่นในที่ที่สมควรกว่า แล้วปล่อยให้ห้องรับแขกเป็นห้องที่น่านั่งน่าไปมาหาสู่จึงจะเหมาะสมกว่า
6.ห้องรับแขกไม่ตั้งอยู่ตรงกลางบ้าน
โดยส่วนใหญ่แล้ว บ้านทั่วไปมักสร้างห้องรับแขกไว้ตรงด้านหน้าเสมอ เพื่อประโยชน์ในการใช้สอยหรือบางบ้านก็อาจมีห้องรับแขกอยู่ด้านหน้าก็แตกต่างกันไปตามความคิดและความสะดวกในการใช้งาน ตามหลักของฮวงจุ้ยแล้ว บ้านที่ดีมีมงคลคือบ้านที่มีห้องรับแขกอยู่ตรงกลางบ้าน เพราะจะทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัย เสริมโชคลาภความร่ำรวยรุ่งเรืองให้ และถ้ามองอีกมุมหนึ่งในเรื่องของการใช้สอย บ้านที่มีห้องรับแขกอยู่ตรงกลางนั้นก็สะดวกไม่แพ้บ้านที่มีห้องรับแขกอยู่ด้านหน้า
ห้องรับแขกนั้นเป็นจุดศูนย์รวมของคนในบ้าน ในการใช้ทำกิจกรรมต่างๆ หากให้อยู่ตรงกลางบ้านแล้วย่อมสะดวกกว่าการอยู่ด้านหน้าบ้าน เพราะจะทำกิจกรรมอะไรก็ไม่ต้องเกรงกลัวหรือเกรงใจสายตาใคร เพราะอยู่ตรงกลางบ้านไม่ได้อยู่หน้าบ้านจนคนทั่วไปสามารถมองเข้ามาเห็นได้ดังนั้น หากห้องรับแขกของคุณไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางบ้านก็ไม่เป็นไร คุณสามารถปรับเปลี่ยนย้ายห้องรับแขกมาอยู่ตรงกลางบ้านได้โดยการย้ายบรรดาข้าวของและเฟอร์นิเจอร์ ไม่ต้องใช้เงินเพียงแค่ใช้แรง หากคุณปรารถนาความสบายใจและความสุขสำเร็จในชีวิต เมื่อได้ลงมือปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามหลักฮวงจุ้ย
เมื่อจุดที่เรียกว่าจุดทรัพย์ของห้องรับแขก คือบริเวณตู้ด้านในทางเข้าห้องรับแขกที่คุณควรหาสิ่งของมงคลมาตั้งไว้บริเวณนั้น เพื่อดึงดูดพลังทางบวกให้เข้ามา สิ่งมงคลเหล่านั้นได้แก่
- เหรียญทองคำหรือธนบัตรที่ใส่กรอบสวยงามตั้งโชว์
- กำปั่นเงินเล็กๆ
- ตุ๊กตาตั้งโชว์หรือภาพวาดของนกยูงและม้า
- กระถางต้นไม้ที่มีความสวยงาม เช่น บอนไซที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดโทนเขียวสด และงดงามได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังเหมาะที่จะนำมาตั้งประดับภายในตัวบ้านคือห้องรับแขกอีกด้วย
และเมื่อพูดถึงของมงคลที่ควรนำมาสร้างเสริมพลังให้ในจุดทรัพย์แล้ว คุณก็ควรรู้ว่ายังมีสิ่งของที่ไม่เป็นมงคลที่ไม่สมควรมาตั้งยังจุดเรียกทรัพย์ด้วยเพราะจะทำให้จุดทรัพย์ของห้องรับแขกนั้นเป็นจุดอับโชค เรียกได้ว่าจุดทรัพย์ควรเป็นจุดหรือมุมที่สงบที่สุดภายในห้องรับแขก ดังนั้นไม่ควรมีสิ่งของที่ทำลายจุดทรัพย์ให้เสื่อมถอยดังต่อไปนี้
- ตู้ปลา ตู้ปลานั้นคือตัวแทนของความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เมื่ออยู่บริเวณจุดทรัพย์ย่อมทำให้จุดทรัพย์ไร้ซึ่งความสงบ แต่มีหลายคนเข้าใจผิดว่าการนำตู้ปลามาไว้บริเวณจุดทรัพย์ในห้องรับแขกนั้นเป็นการดี ความจริงแล้วตู้ปลาจะส่งผลดีก็ต่อเมื่ออยู่ในห้องรับแขกบริเวณไม่ใช่จุดทรัพย์ เพราะนอกจากจะเพิ่มความสวยงามร่มรื่นให้ห้องรับแขกแล้วยังช่วยปัดเป่าความชั่วร้ายให้ออกไปจากบ้านได้ด้วย รวมถึงในเรื่องเงินทองและโชคลาภ การมีตู้ปลาในห้องรับแขกก็ถือว่าเป็นการดี ซึ่งจำนวนปลาที่ควรเลี้ยงเอาไว้ในตู้ก็คือ 3 6 และ 9 ตัว จะเป็นมงคลที่สุดและนอกจากนี้แล้ว การใช้ตู้ปลาที่เป็นเหลี่ยมอย่างตู้ปลา 6 หรือ 8 เหลี่ยมก็จะช่วยเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้เกิดขึ้นอีก เรียกว่าก่อนจัดวางตู้ปลาต้องสำรวจให้แน่ใจว่าไม่ได้ตั้งทับจุดทรัพย์ภายในห้อง
- เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ วิทยุ สเตอริโอ ตู้เย็น พัดลม คอมพิวเตอร์ video เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น เป็นตัวการที่ทำให้เกิดเสียงรบกวน ทำให้สุดทรัพย์ไร้ซึ่งความสงบอย่างที่ควรจะเป็นนั่นเอง
