“ฉันเป็นพยาบาลวิชาชีพ ปัจจุบันฉันลาออกจากราชการและมาทำงานเป็นพยาบาลบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำให้พบคนไข้ ที่มีอาการแพ้ยาแก้ปวดไมเกรนแบบรุนแรงมาก ถึงขนาดเกือบเสียชีวิต และเกือบต้องตัดขาทิ้ง จากกรณีแพ้ยาของผู้ป่วยรายนี้ ทำให้ทุกวันนี้ ฉันหลีกเลี่ยงการรักษาอาการปวดศรีษะของพนักงานโดยการให้ยา แต่หันมาใช้วิธี “กดจุด” แทน ซึ่งได้ผลค่อนข้างดีทีเดียว” พยาบาลท่านหนึ่งได้กล่าวไว้
คนที่เป็นไมเกรน เวลามีอาการปวดศรีษะจะทรมานมาก จึงแนะนำและสอนให้พนักงานฝึกกดจุดแก้ปวดศรีษะ และรักษาอาการจากโรคต่าง ๆ ด้วยตนเอง โดยแทบไม่ต้องพึ่งยา ทำให้ลดจำนวนการใช้ยา และเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตได้อีกด้วย ซึ่งวิธีการนำมาจากหนังสือ “กดจุดหยุดป่วย” โดยมีวิธีการดังนี้
วิธีการกดจุดรักษาอาการป่วย
1.กดจุดรักษาอาการปวดศรีษะ
กดจุดเมื่อมีอาการปวดศรีษะ หรือรู้สึกว่าจะปวด จุดที่กดอยู่หลังมือ ตรงที่ต้นกระดูกนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้บรรจบกัน เยื้องมายังกระดูกนิ้วหัวแม่มือด้านนอก ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือกด โดยการหนีบออกแรงให้รู้สึกเจ็บนิดหน่อย กดค้างไว้ 5 วินาที แล้วค่อย ๆ ปล่อย ทำข้างละ 5-6 ครั้ง
2.กดจุดรักษาอาการไข้หวัด
จุดที่กดอยู่บริเวณใต้เล็บนิ้วหัวแม่มือ ฝั่งเดียวกับนิ้วชี้ บริเวณต้นเล็บใช้ปลายนิ้วกดข้างละ 10 ครั้ง โดยเคาะเบา ๆ วันละ 2 ครั้ง เช้า-กลางคืน
3.กดจุดรักษาอาการไอ
จุดที่กดอยู่ที่ปลายนิ้วก้อย ให้ใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือกด ระวังอย่าให้เล็บจิกเนื้อ กดค้างไว้ 3 วินาที ออกแรงกดพอรู้สึกสบาย ค่อย ๆ ผ่อนแรง ทำข้างละ 10 ครั้ง หรือลูบไปมาตามแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้ ทำข้างละ 10 ครั้ง สำหรับผู้ที่มีอาการหืดหอบ ควรทำทุกวัน เช้าหรือกลางคืนก็ได้
อาการเหล่านี้ เป็นเรื่องที่พบกันอยู่บ่อย ๆ และได้พิสูจน์มาแล้วว่าหายจริง เนื่องจากตนเองมีอาการไอมาเป็นเดือน ทานยาจนเบื่อ และนึกขึ้นมาได้จึงได้ลองกดจุดดู มารู้ตัวอีกทีอาการไอก็หายไปแล้ว
โดยอาการป่วยเบื้องต้นนี้ ได้นำมาใช้กับพนักงานที่ป่วย และมาขอยาอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้มั่นใจได้ว่า การ “กดจุด” ใช้ได้ผลดี ซึ่งย่อมดีกว่าการรับประทานยาอย่างแน่นอน ดีไม่ดีเกิดอาการแพ้ยา จะได้โรคเพิ่มขึ้นมาอีก
Tip : การออกกำลังกาย ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และโรคอื่น ๆ ทั้งยังช่วยเสริมสร้างระบบกล้ามเนื้อและกระดูก ลดความเสี่ยงของการพลัดตกหรือบาดเจ็บ ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย และช่วยลดความเครียดและซึมเศร้าให้กับจิตใจ ส่งผลให้เราสุขภาพดีและแข็งแรงขึ้น
ที่มา : คู่สร้างคู่สม ปีที่ 35 ฉบับที่ 850 ศ.23 พ.ค.57
แนะนำ : เกร็ดความรู้เรื่องสุขภาพ เกี่ยวกับอาการปวดตามข้อ Ep.25
แนะนำ : เกร็ดความรู้เรื่องสุขภาพ เกี่ยวกับอาการคันที่จุดซ่อนเร้น Ep.26
แนะนำ : เกร็ดความรู้เรื่องสุขภาพ เกี่ยวกับการกดจุดรักษาอาการปวดหัว Ep.27