นอกจากการเลือกต้นไม้ที่เป็นมงคลดี ๆ มาปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว การคำนึงถึงหลักการจัดตกแต่งสวนให้ดีให้เป็นมงคลด้วยนั้น ก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อจะได้ช่วยเสริมให้ที่อยู่อาศัยได้รับความเป็นสิริมงคลอย่างสมบูรณ์เต็มเปี่ยม
การจัดสวนให้เป็นมงคลจึงยึดเอาตามหลักฮวงจุ้ย เพราะการจัดสวนให้ได้ถูกหลักฮวงจุ้ยนั้น เป็นการที่จะช่วยให้พลังหยิน – หยางตามความเชื่อของศาสตร์นี้เกิดความสมดุล อันเป็นผลให้เกิดแต่สิ่งดี ๆ ซึ่งการจัดสวนตามหลักฮวงจุ้ยเพื่อให้เกิดความเป็นมงคลจะเป็นยังไงกันบ้าง เราไปดูกันเลย
ดิน น้ำ ไม้ ไฟ และทอง 5 ธาตุหลักต้องครบอยู่ในสวน
ตามหลักฮวงจุ้ย กล่าวถึงการจัดสวนไว้ว่า สวนที่ดีและเหมาะสมจะเป็นสวนแห่งพลังเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล ต้องประกอบไปด้วย ดิน น้ำ ไม้ ไฟ และทอง 5 ธาตุหลักนี้ ซึ่งสามารถแจงได้เป็น
ธาตุดิน หมายถึง ดินสำหรับปลูกต้นไม้ที่ต้องมีความอุดมสมบูรณ์
ธาตุน้ำ หมายถึง น้ำพุ น้ำตก บ่อบัวหรือบ่อปลา
ธาตุไม้ หมายถึง ต้นไม้ที่มีความเป็นมงคล
ธาตุไฟ หมายถึง แสงแดดที่สามารถส่องได้ทั่วถึงสวนทั้งหมด
ธาตุทอง หมายถึง การดูแลสวนให้สะอาดแลดูสวยงามตลอดเวลา
สวนต้องอยู่ทางทิศตะวันออก
ทิศตะวันออก คือตำแหน่งที่ดีที่สุดของสวน เพราะว่าแสงแดดแรกของวัน เป็นแสงแดดที่เหมาะสมที่สุดกับความงอกงามเจริญเติบโตของต้นไม้ทุกชนิด ต้นไม้จะชอบเพราะไม่ร้อนจัดเกินไป จึงตอบสนองด้วยการผลิใบออกดอกให้เกิดความสวยงามดี แล้วการมีต้นไม้ที่สวยงามสมบูรณ์อยู่ในบ้าน ก็ถือว่าเป็นพลังเสริมให้มีแต่เรื่องมงคลอย่างสม่ำเสมอ
น้ำตกในสวนต้องหันหน้าเข้าหาบ้าน
การจัดวางตำแหน่งน้ำตกในสวน เป็นสิ่งที่ฮวงจุ้ยให้ความสำคัญมาก เพราะ “น้ำ” ตามความเชื่อของฮวงจุ้ยนั้น หมายถึง เงินและโชคลาภ กอปรกับการที่น้ำตกนั้นมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา การจัดวางที่ไม่ถูกหลักไม่เหมาะสม ย่อมหมายถึงการสูญเสียและโชคลาภไปนั่นเอง ซึ่งการวางตำแหน่งน้ำตกให้โชคลาภพร้อมทั้งเงินทองได้ไหลเข้าบ้านอย่างสม่ำเสมอ ก็คือตำแหน่งที่น้ำตกต้องหันหน้าเข้าบ้านนั่นเอง
รูปทรงอ่างน้ำและบ่อน้ำ
กฎอย่างหนึ่งของฮวงจุ้ย คือของใช้ต่าง ๆ ภายในบ้านต้องไม่เป็นเหลี่ยมคม หรือเป็นมุมแหลม เพราะฮวงจุ้ยเชื่อว่าการมีเหลี่ยมมุมเยอะก็เปรียบเหมือนกับการอยู่แบบถูกทำร้ายทิ่มแทงตลอดเวลา ดังนั้น ในสวนที่กำลังจะขุดบ่อ หรือเลือกอ่างน้ำอ่างบัวมาลง ก็ควรเลือกรูปแบบรูปทรงที่ไม่มีเหลี่ยม ควรเป็นพวกทรงกลม หรือทรงที่มีความโค้งมน
สวนมงคลตามฮวงจุ้ยไม่ควรมีหนาม
ความแหลมคมของหนาม ทางฮวงจุ้ยบอกว่านี่คือ การทิ่มแทงและถูกทำร้าย เพื่อให้คนในบ้านได้อาศัยอยู่อย่างมีความสุขไร้ด้วยเรื่องเดือดร้อนวุ่นวาย หรือถูกกระทบด้วยอุปสรรคปัญหา การจัดสวนตามหลักฮวงจุ้ย จึงไม่นิยมลงต้นไม้ที่มีหนามแหลมคม ถึงแม้ว่าไม้นั้น ๆ จะมีความเป็นมงคลช่วยเสริมบ้านและผู้อยู่อาศัยให้มีชีวิตดีขึ้นก็ตาม
ก้อนหินในสวน
การตกแต่งสวนให้สวยงาม ก้อนหิน ถือว่าเป็นของประดับที่ขาดไม่ได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาให้ดี เพราะก้อนหินนั้นตามความหมายทางฮวงจุ้ย บอกว่ามันคืออุปสรรคปัญหา ดังนั้น หากจะตกแต่งสวนด้วยหินรูปร่างลักษณะก้อนหินที่พอจะนำมาตกแต่งสวนได้ โดยไม่ขัดกับหลักของฮวงจุ้ย ควรจะเป็นก้อนหินที่มีรูปทรงกลม ก้อนไม่ใหญ่ และเป็นก้อนทึบไม่มีรูกลวงใด ๆ โดยตำแหน่งที่ใช้วางก้อนหินได้ คือทุกส่วนของสวนยกเว้นบริเวณหน้าบ้าน โดยเฉพาะจุดที่ตรงกับประตูบ้าน
ขนาดของบ้านกับต้นไม้ต้องสัมพันธ์ตามกัน
บ้านเล็กมีพื้นที่ไม่มาก ก็ควรลงพวกไม้พุ่มเล็ก ๆ หรือไม้ประดับที่ปลูกในกระถางได้เท่านั้นก็พอ ไม่จำเป็นเลยที่ต้องเลือกลงไม้ใหญ่ ถึงแม้ว่าไม้ใหญ่จะมีมงคลตามที่ต้องการก็ตาม เพราะตามหลักฮวงจุ้ยบอกว่าต้นไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่บ้านขนาดเล็ก จะทำให้พลังดีเข้ามาไม่ถึงตัวบ้าน เนื่องด้วยเหตุที่ว่าเมื่อต้นไม้โตขึ้นมาก ๆ แตกกิ่งก้านใบออกมาหนาทึบ ก็จะปิดบังตัวบ้านจนมืดมิดไปเสียหมดนั่นเอง
สีสันความสมดุล
ความสมดุลถือเป็นหลักอีกหนึ่งประการที่สำคัญของฮวงจุ้ย เพราะอะไรที่มากไปไม่พอดี จะส่งให้พลังที่ได้รับมักมาแบบไม่สมบูรณ์และก็อาจจะกลายเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากกว่าที่จะเกิดเรื่องดี ๆ อาทิ ความเจ็บป่วย ความสูญเสีย หรือมีแต่ปัญหาอุปสรรค อย่างการจัดตกแต่งสวนด้วยการใช้สี ก็ควรให้มีสีหลากหลายเข้าไว้ อย่าเป็นเพียงสีใดสีหนึ่งทั่วทั้งสวน อย่างเช่นถ้าหากสวนมีแต่ดอกไม้สีขาวอย่างเดียว ก็จะส่งผลให้บ้านมีแต่เรื่องความเจ็บป่วยและการสูญเสียอยู่เป็นระยะ ๆ
เคล็ดฮวงจุ้ยจัดสวนมั่งมีศรีสุขกับการปลูกและแต่งสวน
การสร้างสวนให้ถูกหลักฮวงจุ้ย ต้องทำให้พลังหยินและหยางมีความสมดุล ซึ่งความรู้สึกที่บอกได้ว่าสวนมีพลังหยินหยางที่สมดุล ก็คือ การมองเห็นแสงแดด สายน้ำ ความร่มเงา และความสมบูรณ์เขียวชอุ่มของต้นไม้ผสมผสานลงตัวด้วยความพอดี และไปในทางที่สัมพันธ์กันโดยองค์ประกอบที่จะก่อให้เกิดสวนที่สมดุลคือ ลักษณะรูปทรง สีสัน และตำแหน่งทิศทาง โดยสวนที่มีฮวงจุ้ยดีก็จะมองเห็นและสัมผัสได้ ดังนี้
- มีต้นไม้ ดอกไม้สดชื่นอยู่เต็มสวน
- ไม่มีความรกของหญ้าแห้ง วัชพืช หรือต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา
- ไม่ปลูกอะไรที่ไม่เหมาะสมกับสภาพธรรมชาติ
- ไม่ปล่อยให้ต้นไม้เติบโตโดยไม่มีการตัดแต่งใด ๆ จนดูระเกะระกะรกตา