ห้องเก็บของ ส่วนใหญ่จะมองกันว่าเป็นห้องที่ไม่มีความสำคัญอะไร จนบางครั้งลืมนึกที่จะออกแบบบ้านหรือห้องนี้เอาไว้ด้วย พอเข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว ข้าวของก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนไม่รู้จะเก็บเอาไว้ที่ไหน จึงค่อยนึกได้ว่า รู้อย่างนี้ทำห้องเก็บของไว้สักห้องก็น่าจะดี
ถ้าเจ้าของบ้านเป็นคนชอบเก็บของสะสม ห้องนี้ถือว่าสำคัญมาก ทางฮวงจุ้ยก็มีเขียนเอาไว้ บ้านที่มีของมากเกินไปจะเกิดสภาพอุดตัน โชคลาภไม่เข้าบ้าน เพราะไปทางไหนก็เต็มไปด้วยของวางเกะกะเต็มบ้านไปหมด หลักฮวงจุ้ยจะเน้นเรื่องของความสมดุลเป็นหลัก ขนาดของบ้านกับจำนวนของที่นำมาวางในบ้าน จะต้องพอเหมาะจะถือว่าดี
การเลือกตำแหน่งห้องเก็บของในบ้าน ควรจะอยู่ตรงไหนนั้น ถ้าสามารถเลือกได้ ก็ควรเลือกที่จะวางห้องเก็บของเอาไว้นอกตัวบ้าน พูดง่ายๆก็คือสร้างห้องแยกต่างหากจากตัวบ้านจะดีที่สุด เหตุผลก็เพราะ ห้องเก็บของเป็นห้องที่ก่อมลภาวะ โดยเฉพาะในเรื่องของฝุ่น จึงเป็นแหล่งสะสมฝุ่น โดยเฉพาะของไม่ได้ใช้ ฝุ่นย่อมเกิดขึ้นเยอะเป็นธรรมดา นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่ของพวกหนู แมลงสาบ มด ปลวกอีกด้วย ถ้าเจ้าของบ้านเป็นคนขยัน ทำความสะอาดห้องเก็บของอยู่เสมอ ปัญหานี้ก็อาจจะไม่เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่ร้อยทั้งร้อย จะนำของไปวาง ๆ ไว้ แล้วก็ปล่อยทิ้งซะมากกว่า
การทําห้องเก็บของไว้ในบ้าน ส่วนใหญ่จะแนะนำให้เก็บของที่ต้องนำมาใช้บ่อยๆ เช่น เครื่องดูดฝุ่น เครื่องครัว หรือพวกกระเป๋าเดินทาง ที่สามารถนำมาใช้ได้โดยง่าย และห้องไม่ควรใหญ่มาก เลือกตำแหน่งที่ค่อนข้างหลบมุมสักหน่อย ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะทำเอาไว้ด้านหลังบ้าน
ตามหลักฮวงจุ้ยบอกเอาไว้ว่า ของที่ปล่อยทิ้งไม่ได้ใช้ จะก่อสภาพนิ่งตาย เสื่อมโทรม เป็นเชื้อที่ไม่ดี เป็นอัปมงคลกับบ้านที่อยู่อาศัย ดังนั้นหากจะให้ดีที่สุด ก็ไม่ควรเก็บของที่ไม่ได้ใช้เอาไว้มากจนเกินไป เพราะนอกจากจะไม่ก่อประโยชน์ให้กับตัวเองแล้ว ยังสร้างสภาพแวดล้อมที่เสียอีกด้วย การบริจาคหรือการแจกให้กับคนอื่นใช้บ้าง ก็น่าจะเป็นประโยชน์มากที่สุด แถมยังได้บุญ ได้รับคำขอบคุณ และที่สำคัญทำให้ฮวงจุ้ยบ้านดีขึ้นด้วย
ที่มาและการอ้างอิง : ฮวงจุ้ยการสร้างบ้าน-ต่อเติมบ้าน โดย มาโนช ประภาษานนท์
